Page 39 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 39

31





                     ื
                                                                 ึ
                                                                                          ิ
            ขัดแย้งในเร่องฐำนะหรือควำมสำมำรถของบุคคล คู่ควำม หรือบุคคลซ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจำกค�ำพพำกษำ
                                                     ื
            หรือค�ำส่งดังกล่ำวอำจยื่นค�ำร้องต่อคณะกรรมกำรเพ่อขอให้วินิจฉัยเก่ยวกับกำรปฏิบัติตำมค�ำพิพำกษำหรือ
                                                                   ี
                   ั
            ค�ำสั่งของศำลดังกล่ำวได้ภำยในหกสิบวัน นับแต่วันที่ค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งที่ออกภำยหลังถึงที่สุด
                  ให้คณะกรรมกำรพิจำรณำค�ำร้องตำมวรรคหน่ง โดยค�ำนึงถึงประโยชน์แห่งควำมยุติธรรมและ
                                                        ึ
            ควำมเป็นไปได้ในกำรปฏิบัติตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งของศำล แล้วให้ก�ำหนดแนวทำงกำรปฏิบัติตำม
                                                        ั
            ค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำลดังกล่ำว ค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรให้เป็นที่สุด
                                               ึ
                  ในกำรพิจำรณำค�ำร้องตำมวรรคหน่ง ให้คณะกรรมกำรพิจำรณำให้เสร็จภำยในหกสิบวันนับแต่
                ี
                                   ื
            วันท่คณะกรรมกำรมีมติรับเร่อง แต่ถ้ำมีเหตุจ�ำเป็น ให้คณะกรรมกำรลงมติให้ขยำยเวลำออกไปได้ไม่เกิน
                                               ี
                                  ิ
                                     ั
                           ่
                             ิ
                                            ั
                                               ่
                                       ั
                                           ่
                                                                                         �
                                                                                   ่
                                                                                ุ
                                                                                              ้
                                                                                              ั
                                                                                            ็
                                                                ่
                                                             ั
                                                   �
                                                                            ึ
                                                                         ั
                                                                        ้
                      ้
            สองครง ครงละไมเกนสำมสบวนนบแตวนทครบกำหนดเวลำดงกลำว โดยใหบนทกเหตแหงควำมจำเปนนน
                  ้
                      ั
                  ั
            ไว้ด้วย ๓
                  มำตรำ 1๕ ให้น�ำบทบัญญัติมำตรำ ๑0 ถึงมำตรำ ๑๔ ไปใช้กับวิธีกำรชั่วครำวก่อนพิพำกษำกำรยื่น
                                          ี
            ค�ำร้องต่อศำลก่อนกำรฟ้องคดีตำมท่กฎหมำยบัญญัติกำรสืบพยำนหลักฐำนไว้ก่อนฟ้องคดี กำรบังคับคด ี
            ตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำล และกำรปฏิบัติกำรตำมอ�ำนำจหน้ำที่ประกำรอื่นของศำลโดยอนุโลม
                  มำตรำ 16 กำรประชุมของคณะกรรมกำรต้องมีกรรมกำรมำประชุมไม่น้อยกว่ำสำมในส่ของจ�ำนวน
                                                                                       ี
            กรรมกำรทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
                                                    ุ
                                                           ี
                                                                                             ิ
                                                                                               ั
                                                                               ู่
                                                            ่
                                                            ี
                                               ี
                                               ่
                                    ็
                  ให้ประธำนกรรมกำรเปนประธำนในทประชมในกรณทประธำนกรรมกำรไม่อยหรือไม่สำมำรถปฏบต    ิ
            หน้ำที่ได้ ให้กรรมกำรซึ่งมำประชุมเลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนในที่ประชุม
                                   ี
                            ี
                                                                      ึ
                                                                                 ึ
                  กำรวินิจฉัยช้ขำดในท่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก กรรมกำรคนหน่งให้มีเสียงหน่งในกำรลงคะแนน
            ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกันให้ประธำนในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขำด
                  มำตรำ 1๗ ค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรให้ท�ำเป็นหนังสือ ระบุเหตุผลแห่งค�ำวินิจฉัยและ
                                                   ั
                                                                               ี
            ลงลำยมือช่อกรรมกำรทุกคนท่วินิจฉัย และบุคคลท่วไปอำจขอคัดส�ำเนำได้ตำมวิธีกำรท่คณะกรรมกำรก�ำหนด
                                    ี
                     ื
                  ให้คณะกรรมกำรมีอ�ำนำจออกข้อบังคับเก่ยวกับวิธีกำรเสนอเร่องต่อคณะกรรมกำร กำรพิจำรณำ
                                                                    ื
                                                    ี
                                                             ี
            และวินิจฉัยของคณะกรรมกำร และกำรอ่นท่จ�ำเป็นเท่ำท่ไม่ขัดต่อพระรำชบัญญัติน้โดยประกำศใน
                                                                                   ี
                                                  ี
                                               ื
            รำชกิจจำนุเบกษำ
                                                                               ี
                  มำตรำ 1๘ ให้เลขำนุกำรศำลฎีกำเป็นเลขำนุกำรคณะกรรมกำร และให้มีหน้ำท่รับผิดชอบด�ำเนินกำร
            ตำมที่คณะกรรมกำรก�ำหนด
                                                                                      ั
                  เพ่อประโยชน์ในกำรปฏิบัติงำนของเลขำนุกำรคณะกรรมกำร ให้ประธำนกรรมกำรแต่งต้งข้ำรำชกำร
                    ื
            ตุลำกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมจ�ำนวนสองคนเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร
            คณะกรรมกำร  ๔
                  ๓   มำตรำ ๑๔ วรรคสำม แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล
                                          ิ
                                                                          ี
                                                                                       ี
            (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔
                  ๔   มำตรำ ๑๘ วรรคสอง เพ่มโดยพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล (ฉบับท่ ๒)
                                      ิ
                                                                   ี
                                                                               ี
                                                                                             ี
            พ.ศ. ๒๕๖๔
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44