Page 60 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 60
52
ึ
ี
ั
“คณะกรรมกำรวินิจฉัยข้อพิพำท” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรท่จัดต้งข้นตำมกฎหมำย ท่ม ี
ี
กำรจัดองค์กรและวิธีพิจำรณำส�ำหรับกำรวินิจฉัยชี้ขำดสิทธิและหน้ำที่ตำมกฎหมำย
“ตุลำกำรศำลปกครอง” หมำยควำมว่ำ ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดและตุลำกำรในศำลปกครอง
ชั้นต้น
“ก.ศป.” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครอง
๒
“ก.บ.ศ.ศป.” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรบริหำรศำลปกครอง
๓
“ก.ขป.” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครอง
“คู่กรณี” หมำยควำมว่ำ ผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดี และให้หมำยควำมรวมถึงบุคคลหน่วยงำน
ทำงปกครอง หรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐท่เข้ำมำเป็นคู่กรณีด้วยกำรร้องสอด ไม่ว่ำจะโดยควำมสมัครใจเอง
ี
ี
ี
ี
ื
ั
�
่
หรอโดยถูกคำส่งศำลปกครองเรียกเข้ำมำในคด ท้งน้ เนองจำกเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรืออำจถกกระทบจำก
ู
ั
ื
ผลแห่งคดีนั้น และเพื่อประโยชน์แห่งกำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำ ให้รวมถึงผู้มีสิทธิกระท�ำกำรแทนด้วย
“ค�ำฟ้อง” หมำยควำมว่ำ กำรเสนอข้อหำต่อศำล ไม่ว่ำจะได้เสนอต่อศำลปกครองช้นต้นหรือ
ั
้
�
ศำลปกครองสูงสุด ไม่ว่ำจะได้เสนอในขณะท่เร่มคดีโดยค�ำฟ้องหรือค�ำร้องขอ หรือเสนอในภำยหลังโดยคำฟอง
ี
ิ
เพิ่มเติม หรือแก้ไข หรือฟ้องแย้ง หรือโดยสอดเข้ำมำในคดีไม่ว่ำด้วยควำมสมัครใจ หรือถูกบังคับ หรือโดย
มีค�ำขอให้พิจำรณำใหม่
ิ
“กฎ” หมำยควำมว่ำ พระรำชกฤษฎีกำ กฎกระทรวง ประกำศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถ่น ระเบียบ
ั
ี
ื
ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอ่นท่มีผลบังคับเป็นกำรท่วไป โดยไม่มุ่งหมำยให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใด
เป็นกำรเฉพำะ
ึ
ี
“สัญญำทำงปกครอง” หมำยควำมรวมถึง สัญญำท่คู่สัญญำอย่ำงน้อยฝ่ำยใดฝ่ำยหน่งเป็นหน่วยงำน
ี
ทำงปกครองหรือเป็นบุคคลซ่งกระท�ำกำรแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญำสัมปทำน สัญญำท่ให้จัดท�ำ
ึ
บริกำรสำธำรณะ หรือจัดให้มีสิ่งสำธำรณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ
๔
“ประโยชน์แก่ส่วนรวม” หมำยควำมว่ำ ประโยชน์ต่อสำธำรณะหรือประโยชน์อันเกิดแก่กำรจัดท�ำ
ี
ื
่
ื
ิ
บริกำรสำธำรณะหรือกำรจัดให้มส่งสำธำรณูปโภค หรอประโยชน์อนใดท่เกดจำกกำรด�ำเนินกำรหรอ
ื
ี
ิ
กำรกระท�ำท่มีลักษณะเป็นกำรส่งเสริม หรือสนับสนุนแก่ประชำชนเป็นส่วนรวม หรือประชำชนส่วนรวม
ี
จะได้รับประโยชน์จำกกำรด�ำเนินกำรหรือกระท�ำนั้น
มำตรำ ๔ ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
๒ มำตรำ ๓ นิยำมค�ำว่ำ “ก.บ.ศ.ป.” เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
ั
ิ
(ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
๓ มำตรำ ๓ นิยำมค�ำว่ำ “ก.ขป.” เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
ั
ิ
(ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
๔ มำตรำ ๓ นิยำมค�ำว่ำ “ประโยชน์แก่ส่วนรวม” เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำ
ิ
ั
คดีปกครอง (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๑