Page 64 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 64

56





                                                                                             ั
                (๒) ข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครอง คือ ข้ำรำชกำรในส�ำนักงำนศำลปกครองซ่งได้รับกำรแต่งต้ง
                                                                               ึ
           ตำมมำตรำ ๗๘ หรือมำตรำ ๗๘/๑ หรือได้รับกำรบรรจุและแต่งตั้งตำมมำตรำ ๘๗
                         ๑๓
                มำตรำ 1๒  ในศำลปกครองสูงสุด ให้มีต�ำแหน่งตุลำกำรศำลปกครอง ดังต่อไปนี้
                (๑) ประธำนศำลปกครองสูงสุด

                (๒) รองประธำนศำลปกครองสูงสุด
                (๓) ตุลำกำรหัวหน้ำคณะศำลปกครองสูงสุด
                (๔) ตุลำกำรศำลปกครองสูงสุด
                (๕) ตุลำกำรศำลปกครองสูงสุดที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นตำมที่ ก.ศป. ประกำศก�ำหนด

                ทั้งนี้ ตำมจ�ำนวนที่ ก.ศป.ก�ำหนด
                กำรก�ำหนดต�ำแหน่งตำมวรรคหน่ง (๕) ให้ ก.ศป. ก�ำหนดว่ำจะให้เทียบเท่ำกับต�ำแหน่งใดตำม
                                            ึ
           วรรคหนึ่ง (๒) (๓) หรือ (๔) ไว้ในประกำศดังกล่ำวด้วย และเมื่อได้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำแล้ว ให้ใช้
           บังคับได้

                มำตรำ 1๓ ผู้ท่จะได้รับแต่งต้งเป็นตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปน  ี ้
                            ี
                                       ั
                (๑) มีสัญชำติไทย
                (๒) มีอำยุไม่ต�่ำกว่ำสี่สิบห้ำปี
                (๓) เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสำขำนิติศำสตร์ รัฐศำสตร์ รัฐประศำสนศำสตร์ เศรษฐศำสตร์ สังคมศำสตร์

           หรือในกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดิน ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์ที่ ก.ศป.ก�ำหนด และ
                (๔) มีคุณสมบัติอื่นอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด ดังต่อไปนี้
                  (ก) เป็นหรือเคยเป็นกรรมกำรร่ำงกฎหมำย กรรมกำรวินิจฉัยร้องทุกข์หรือกรรมกำรกฤษฎีกำ
                                                          �
                                                                                          ั
                  (ข) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรในต�ำแหน่งไม่ต่ำกว่ำตุลำกำรหัวหน้ำคณะศำลปกครองช้นต้น
                                                           �
                  (ค) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรในต�ำแหน่งไม่ต่ำกว่ำผู้พิพำกษำศำลฎีกำหรือเทียบเท่ำหรือ
           ตุลำกำรพระธรรมนูญศำลทหำรสูงสุด
                  (ง) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรในต�ำแหน่งไม่ต�่ำกว่ำอัยกำรพิเศษประจ�ำเขตหรือเทียบเท่ำ
                  (จ) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรในต�ำแหน่ง ไม่ต�่ำกว่ำอธิบดีหรือเทียบเท่ำ หรือต�ำแหน่งอื่นใน

           หน่วยงำนของรัฐที่เทียบเท่ำตำมที่ ก.ศป.ประกำศก�ำหนด
                  (ฉ) เป็นหรือเคยเป็นผู้สอนวิชำในสำขำนิติศำสตร์ รัฐศำสตร์ รัฐประศำสนศำสตร์ เศรษฐศำสตร์
           สงคมศำสตร์ หรอวชำทเกยวกบกำรบรหำรรำชกำรแผ่นดนในสถำบนอดมศกษำ และดำรงต�ำแหน่ง
                                    ั
                                            ิ
                                                                      ุ
                                                                    ั
                                                           ิ
                                                                                    �
                                 ี
                           ิ
                               ่
            ั
                               ี
                                                                          ึ
                                 ่
                         ื
           หรือเคยด�ำรงต�ำแหน่งศำสตรำจำรย์ หรือศำสตรำจำรย์พิเศษ
                                                                                 ี
                                                                       ี
                                                                        ิ
                                                                       ่
                             ื
                  (ช) เป็นหรอเคยเป็นผ้ประกอบวชำชพทนำยควำมไม่น้อยกว่ำยสบปี และมประสบกำรณ์ใน
                                      ู
                                                  ี
                                              ิ
           คดีปกครองตำมหลักเกณฑ์ที่ ก.ศป. ประกำศก�ำหนด
                มำตรำ 1๔ ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดต้องไม่มีลักษณะต้องห้ำมในขณะด�ำรงต�ำแหน่ง ดังต่อไปน  ี ้
                ๑๓  มำตรำ ๑๒ แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๔
                                ิ
                                                   ั
                                                                                    ี
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69