Page 67 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 67

59





                                                                                           ี
                  (ข) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรไม่น้อยกว่ำสำมปีในต�ำแหน่งพนักงำนคดีปกครองในระดับท่ ก.ศป.
            ก�ำหนด
                    ๑9
                                                                                 ิ
                                                                          �
                                        ั
                                                                                ู
                  (ค)  รับรำชกำรหรอเคยรบรำชกำรไม่น้อยกว่ำสำมปีในต�ำแหน่งไม่ต่ำกว่ำผ้พพำกษำศำลช้นต้น
                                   ื
                                                                                            ั
            หรือเทียบเท่ำ ซึ่งได้รับเงินเดือนในชั้น ๓ หรือตุลำกำรพระธรรมนูญศำลทหำรกลำง
                  (ง) รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรไม่น้อยกว่ำสำมปีในต�ำแหน่งอัยกำรจังหวัดหรือเทียบเท่ำ
                    ๒0
                  (จ)  รับรำชกำรหรือเคยรับรำชกำรไม่น้อยกว่ำสำมปีในต�ำแหน่งไม่ต่ำกว่ำข้ำรำชกำรพลเรือนระดับ
                                                                        �
            ๘ หรือข้ำรำชกำรพลเรือนประเภทวิชำกำร ระดับช�ำนำญกำรพิเศษ ประเภทอ�ำนวยกำร หรือประเภทบริหำร
            หรือปฏิบัติงำนหรือเคยปฏิบัติงำนไม่น้อยกว่ำสำมปีในต�ำแหน่งท่เทียบเท่ำตำมท่ ก.ศป. ประกำศก�ำหนด
                                                                            ี
                                                                ี
            ในหน่วยงำนของรัฐ องค์กำรมหำชน หรือรัฐวิสำหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระรำชบัญญัติหรือพระรำชกฤษฎีกำ
                  (ฉ) เป็นหรอเคยเป็นผ้สอนวิชำในสำขำนติศำสตร์ รัฐศำสตร์ รัฐประศำสนศำสตร์ เศรษฐศำสตร์
                           ื
                                    ู
                                                   ิ
                                  ี
                                ี
                                ่
                          ื
                                  ่
                                                                         ึ
                                                                     ุ
                                                                                               ื
                                                                                  �
                                            ิ
                                     ั
                                                                   ั
                                                           ิ
              ั
            สงคมศำสตร์ หรอวิชำทเกยวกบกำรบรหำรรำชกำรแผ่นดนในสถำบนอดมศกษำ และดำรงต�ำแหน่งหรอ
            เคยด�ำรงต�ำแหน่งไม่ต�่ำกว่ำรองศำสตรำจำรย์หรือรองศำสตรำจำรย์พิเศษไม่น้อยกว่ำสำมปี
                     ๒๑
                  (ช)  ส�ำเร็จกำรศึกษำระดับปริญญำโทหรือปริญญำเอกด้ำนนิติศำสตร์สำขำกฎหมำยมหำชน
            และรับรำชกำรในหน่วยงำนของรัฐหรือปฏิบัติงำนในหน่วยงำนของรัฐ องค์กำรมหำชน หรือรัฐวิสำหกิจท ี ่
              ั
            ต้งข้นโดยพระรำชบัญญัติหรือพระรำชกฤษฎีกำ เป็นเวลำไม่น้อยกว่ำสิบปี นับแต่ส�ำเร็จกำรศึกษำระดับ
                ึ
            ปริญญำโท หรือไม่น้อยกว่ำหกปีนับแต่ส�ำเร็จกำรศึกษำระดับปริญญำเอก
                  (ซ) เป็นหรอเคยเป็นผ้ประกอบวชำชพทนำยควำมไม่น้อยกว่ำสบสองปี และมประสบกำรณ์ใน
                                                                                  ี
                                    ู
                                             ิ
                           ื
                                                ี
                                                                      ิ
            คดีปกครองตำมหลักเกณฑ์ที่ ก.ศป. ประกำศก�ำหนด
                  ให้น�ำควำมในมำตรำ ๑๔ และมำตรำ ๑๖ มำใช้บังคับแก่ตุลำกำรในศำลปกครองชั้นต้นโดยอนุโลม
                           ๒๒
                  มำตรำ 1๙  ให้ ก.ศป.พิจำรณำคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติตำมมำตรำ ๑๘ และมีควำมเหมำะสม
                    ั
            ท่จะแต่งต้งเป็นตุลำกำรในศำลปกครองช้นต้น โดยวิธีกำรสอบคัดเลือกกำรทดสอบควำมรู้ หรือกำรคัดเลือก
              ี
                                            ั
            ทั้งนี้ ตำมระเบียบที่ ก.ศป. ก�ำหนดโดยควำมเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
                  กำรฝึกอบรมและกำรปฏิบัติหน้ำท่ของตุลำกำรประจ�ำศำลปกครองช้นต้นให้เป็นไปตำมระเบียบ
                                              ี
                                                                          ั
            ที่ ก.ศป. ก�ำหนด
                                                                ั
                  ให้ ก.ศป. พิจำรณำคัดเลือกตุลำกำรประจ�ำศำลปกครองช้นต้นซ่งผ่ำนกำรฝึกอบรมตำมหลักสูตรท  ่ ี
                                                                     ึ
            ก.ศป. ก�ำหนด และผลกำรฝึกอบรมเป็นไปตำมมำตรฐำนของ ก.ศป. ว่ำเป็นผู้มีควำมซื่อสัตย์สุจริต ควำมรู้
                                                                                            ั
                                                                                            ้
            ควำมสำมำรถ ควำมรับผิดชอบ และควำมประพฤตเหมำะสมทจะเป็นตุลำกำรศำลปกครอง เพ่อแต่งตงเป็น
                                                                                      ื
                                                             ่
                                                    ิ
                                                             ี
                  ๑9  มำตรำ ๑๘ วรรคหน่ง (๔) (ค) แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                   ึ
                                               ิ
                                                                   ั
            (ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                  ๒0  มำตรำ ๑๘ วรรคหน่ง (๔) (จ) แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                                                   ั
                                               ิ
                                   ึ
            (ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                  ๒๑  มำตรำ ๑๘ วรรคหน่ง (๔) (ช) แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                                                   ั
                                               ิ
                                   ึ
            (ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                  ๒๒  มำตรำ ๑9 แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                                                     ั
                                  ิ
                                                                                      ี
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72