Page 69 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 69

61





                  (9) ถูกไล่ออกตำมมำตรำ ๒๓
                      ๒๔
                  (๑0)  โอนไปรับรำชกำรเป็นข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองหรือข้ำรำชกำรฝ่ำยอื่น
                                                                                   ุ
                                                                ั
                                                                        ื
                                                                        ่
                  กำรพ้นจำกตำแหน่งตำมวรรคหนง ให้นำควำมกรำบบงคมทูลเพอทรงพระกรณำโปรดเกล้ำฯ
                             �
                                              ึ
                                                    �
                                              ่
                                                              ึ
            ให้พ้นจำกต�ำแหน่ง เว้นแต่กำรพ้นจำกต�ำแหน่งตำมวรรคหน่ง (๑) (๓) (๘) และ (9) ให้น�ำควำมกรำบ
            บังคมทูลเพื่อทรงทรำบ ๒๕
                            ๒๖
                  มำตรำ ๒๒  ตุลำกำรศำลปกครองต้องประพฤติตนตำมวินัยแห่งกำรเป็นตุลำกำรศำลปกครอง
            ตำมที่ ก.ศป. ก�ำหนด
                  ก.ศป. อำจมีมติให้ตุลำกำรศำลปกครองผู้ใดออกจำกรำชกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยบ�ำเหน็จบ�ำนำญ
                                                                                        ี
            ข้ำรำชกำรหรือกฎหมำยว่ำด้วยกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำร แล้วแต่กรณี ได้ในกรณีท่กฎหมำย
                                                                                     ื
            ดังกล่ำวบัญญัติให้ผู้ถูกส่งให้ออกมีสิทธิได้รับบ�ำเหน็จบ�ำนำญ แต่กำรให้ออกจำกรำชกำร เพ่อรับบ�ำเหน็จ
                                ั
            บ�ำนำญเหตุทดแทนให้ท�ำได้ในกรณีดังต่อไปนี้ด้วย
                                ี
                  (๑) ปฏิบัติหน้ำท่บกพร่องอย่ำงร้ำยแรงหรือประพฤติตนไม่สมควรตำมท่ก�ำหนดในวินัยแห่งกำร
                                                                             ี
            เป็นตุลำกำรศำลปกครอง
                                            ี
                  (๒) หย่อนควำมสำมำรถในอันท่จะปฏิบัติหน้ำท่รำชกำร หรือเจ็บป่วยไม่อำจปฏิบัติหน้ำท่รำชกำร
                                                                                         ี
                                                        ี
            ได้โดยสม�่ำเสมอ แต่ไม่ถึงเหตุทุพพลภำพ
                  (๓) ได้รับโทษจ�ำคุกโดยค�ำพิพำกษำถึงท่สุดให้จ�ำคุกในควำมผิดอันได้กระท�ำโดยประมำทหรือ
                                                    ี
            ควำมผิดลหุโทษ
                                                                                      ึ
                  ในกรณีท่ ก.ศป. มีมติให้ตุลำกำรศำลปกครองพ้นจำกต�ำแหน่งตำมมำตรำ ๒๑ วรรคหน่ง (๔) (๕) (๖)
                         ี
            หรือ (๗) ให้มีสิทธิได้รับบ�ำเหน็จบ�ำนำญเหตุทดแทนตำมกฎหมำยว่ำด้วยบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำร
            หรือกฎหมำยว่ำด้วยกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำร แล้วแต่กรณีด้วย

                  มำตรำ ๒๓ ก.ศป.อำจมีมติไล่ตุลำกำรศำลปกครองออกได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
                  (๑) ทุจริตต่อหน้ำที่รำชกำร
                  (๒) กระท�ำผิดวินัยอย่ำงร้ำยแรงตำมที่ก�ำหนดในวินัยแห่งกำรเป็นตุลำกำรศำลปกครอง
                  (๓) ได้รับโทษจ�ำคุกโดยค�ำพิพำกษำถึงที่สุดให้จ�ำคุก เว้นแต่ในควำมผิดอันได้กระท�ำโดยประมำท
                              ๒๗
                  มำตรำ ๒๓/1  ในกรณีที่ข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลปกครองกระท�ำผิดวินัยไม่ถึงขั้นที่จะต้องให้ออก
                                                                   ื
                                                ื
            หรือไล่ออก ก.ศป. อำจมีมติให้ลงโทษงดเล่อนต�ำแหน่ง หรืองดเล่อนเงินเดือนเป็นเวลำไม่เกินสำมปี
                                     ั
            หรือถ้ำมีเหตุสมควรปรำนีจะส่งลงโทษเพียงภำคทัณฑ์ และจะให้ท�ำทัณฑ์บนเป็นหนังสือหรือว่ำกล่ำว
            ตักเตือนด้วยก็ได้

                  ๒๔  มำตรำ ๒๑ วรรคหน่ง (๑0) เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                                                ั
                                     ึ
                                             ิ
            (ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                  ๒๕  มำตรำ ๒๑ วรรคสอง (๑0) เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                                                ั
                                             ิ
            (ฉบับที่ ๑0) พ.ศ. ๒๕๖๑
                  ๒๖  มำตรำ ๒๒ แก้ไขเพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑0) พ.ศ. ๒๕๖๑
                                                                                    ี
                                  ิ
                                                   ั
                  ๒๗  มำตรำ ๒๓/๑ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0
                                                                                     ี
                                 ิ
                                                  ั
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74