Page 14 - Q15-COJ
P. 14

3.3 ศาลฎีกา

               ศาลฎีกาเป็นศาลสูงสุด  มีประธานศาลฎีกาซึ่งเป็นประมุขของตุลาการศาลยุติธรรมเป็นผู้บังคับ

        บัญชาสูงสุด  ศาลฎีกามีเขตอำานาจทั่วทั้งราชอาณาจักร  มีอำานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์
        หรือฎีกาคำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค ตามที่กฎหมายบัญญัติ
        รวมทั้งมีอำานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้เสนอต่อศาลฎีกาได้โดยตรง

        (พระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23) เช่น คดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองหรือคดีเลือกตั้ง

        ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และ
        พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา  พ.ศ.2561  คดีฝ่าฝืนมาตรฐาน
        จริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งคำาสั่งหรือคำาพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุด

               สำาหรับการตัดสินคดีความนั้น  ศาลฎีกาจะมีองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีประกอบด้วยผู้พิพากษา

        อย่างน้อย 3 คน แต่หากมีคดีความที่ขัดข้องในเรื่องข้อเท็จจริงหรือประสบปัญหาข้อกฎหมาย และประธาน
        ศาลฎีกา เห็นควรให้มีการพิจาณาตัดสินความอย่างถี่ถ้วน ประธานศาลฎีกามีอำานาจสั่งการให้นำาปัญหา
        ดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป ทั้งนี้ ศาลฎีกาจะมีกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

        ทำาหน้าที่ในลักษณะเดียวกันกับกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์ภาค  และศาลอุทธรณ์คดี

        ชำานัญพิเศษ
               ศาลฎีกามีแผนกคดีพิเศษทั้งสิ้น  ๑๑  แผนก  เพื่อประโยชน์ในด้านการวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่อาศัย
        ความชำานาญพิเศษ แผนกคดีพิเศษในศาลฎีกาประกอบด้วย (๑)แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา

        (๒)แผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา (๓)แผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา (๔)แผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและ

        การค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา (๕)แผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา (๖)แผนกคดีอาญาของผู้ดำารง
        ตำาแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา (๗)แผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา (๘)แผนกคดีสิ่งแวดล้อม
        ในศาลฎีกา (๙)แผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา (๑๐)แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา (๑๑)แผนกคดีคำาร้องและ

        ขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา

               สำาหรับแผนกคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกานั้น จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณา
        พิพากษาคดีผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
                                                           ่
        สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่น ซึ่งถูกกล่าวหาว่ารำารวยผิดปกติ กระทำาความผิดต่อตำาแหน่ง
        หน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำาความผิดต่อตำาแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่

        ตามกฎหมายอื่น รวมทั้งกรณีบุคคลอื่นที่เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุนด้วย องค์คณะผู้พิพากษาใน
        แผนกนี้ประกอบด้วย ผู้พิพากษาศาลฎีกาจำานวน ๙ คน ที่คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา การพิจารณาคดี
        ให้ใช้ระบบไต่สวนโดยให้ศาลค้นหาความจริงไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และในการ






  13
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19