Page 352 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 352

วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษ




            การดําเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน พ.ศ. 2556 ได้แก่ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การสอบ
                                                                          ี
                                                                       ้
                                                               ํ
                                                                                    ํ
                                                                              ื
                                                                           ํ
                 ้
                                    ิ
                                 ็
                                                   ้
              ํ
                                                 ็
                                                                                          ั
            คาใหการ การสอบข้อเทจจรง การจดประเดนขอพิพาท การกาหนดหนาท่นาสบ การกาหนดวนนัด
            สืบพยาน หรืออาจรวมถึงการตรวจพยานหลักฐานด้วย สําหรับการจดประเด็นข้อพิพาทปรากฏ
            ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 39  และ
                                                                                        12
                                                                                             13
            ข้อกําหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดําเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน พ.ศ. 2556 ข้อ 34
            มีลักษณะคล้ายการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และมีนักกฎหมาย
            หลายท่านเข้าใจว่าการจดประเด็นของศาลแรงงานคือการช้สองสถาน หรือเข้าใจว่าการจดประเด็น
                                                              ี
            ก็คือการกําหนดประเด็นเหมือนคดีแพ่งท่วไป ซ่งเป็นความเข้าใจท่ผิด แม้ตามภาษาพูดท่นิยม
                                                ั
                                                                      ี
                                                      ึ
                                                                                          ี
                                                                                     ี
                              ํ
                                                                                     ้
                                                                         ิ
                                                   ิ
                                                                   ็
                                        ็
            ใช้กนจะเรียกว่าการกาหนดประเดน แต่ความจรงแล้ว การจดประเดนข้อพพาทไม่ใช่การชสองสถาน 14
               ั
                    ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2550 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณา
            คดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 39 บัญญัติถึงการกําหนดประเด็นข้อพิพาทและกําหนดวันนัด
                                                ื
                                                       ี
            สืบพยานไว้โดยเฉพาะแล้ว ไม่จําต้องนําเร่องการช้สองสถานตามท่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมาย
                                                                     ี
            วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 มาใช้บังคับ คดีแรงงานจึงไม่มีการชี้สองสถาน
                    12   พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 39 บัญญัติว่า
                      “ในกรณีมีประเด็นท่ยังไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกัน ให้ศาลแรงงานจดประเด็น
                                    ี
                                                                             ื
            ข้อพิพาทและบันทึกคําแถลงของโจทก์กับคําให้การของจําเลยอ่านให้คู่ความฟัง และให้ลงลายมือช่อไว้ โดยจะระบุให้คู่ความ
            ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนําพยานมาสืบก่อนหรือหลังก็ได้ แล้วให้ศาลแรงงานกําหนดวันสืบพยานไปทันที
                      ถ้าจําเลยไม่ยอมให้การ ให้ศาลแรงงานบันทึกไว้ และดําเนินกระบวนพิจารณาต่อไป”
                    13   ข้อกําหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดําเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน พ.ศ. 2556 ข้อ 34
                                                        ี
                      “ในวันนัดตรวจพยานหลักฐาน หากยังมีประเด็นท่ไม่อาจตกลงกันได้ ให้ศาลจดประเด็นข้อพิพาทโดยให้ศาล
                                             ึ
            สอบถามคู่ความเก่ยวกับข้อเท็จจริงท่คู่ความยกข้นเป็นข้ออ้าง ข้อเถียง และพยานหลักฐานท่ได้เสนอไว้ในบัญชีระบุพยาน
                         ี
                                                                           ี
                                     ี
                                                          ี
            คู่ความต้องตอบคําถามดังกล่าวของศาล ถ้าคู่ความไม่ตอบคําถามเก่ยวกับข้อเท็จจริงใดหรือปฏิเสธข้อเท็จจริงใดโดยไม่มีเหต ุ
            แห่งการปฏิเสธโดยชัดแจ้ง ให้ถือว่ายอมรับข้อเท็จจริงนั้น แต่ถ้าศาลเห็นว่าคู่ความฝ่ายนั้นไม่อยู่ในวิสัยที่จะตอบหรือแสดงเหตุ
            แห่งการปฏิเสธโดยชัดแจ้งในขณะน้น ศาลอาจส่งให้คู่ความฝ่ายน้นตอบหรือแสดงเหตุแห่งการปฏิเสธภายในเวลาตามท่ศาล
                                                        ั
                                             ั
                                                                                            ี
                                    ั
            เห็นสมควรกําหนดก็ได้
                                ี
                      ข้อเท็จจริงใดท่คู่ความรับกันหรือถือว่ารับกันก็เป็นอันยุติไปตามน้น ส่วนข้อเท็จจริงใดท่คู่ความฝ่ายหน่ง
                                                                    ั
                                                                                   ี
                                                                                              ึ
            ยกขนอ้าง แต่ค่ความฝ่ายอนไม่ยอมรบและเกยวเนองโดยตรงกับประเดนข้อพพาทตามคาค่ความ ให้ศาลจดเป็นประเดน
               ้
                               ่
                                               ่
                                                                           ู
                                            ี
                               ื
                                                                         ํ
               ึ
                                                             ็
                       ู
                                            ่
                                      ั
                                                                                             ็
                                                                 ิ
                                               ื
            ข้อพิพาทและกําหนดให้คู่ความฝ่ายใดนําพยานหลักฐานมาสืบในประเด็นข้อใดก่อนหรือหลังก็ได้
                                                                              ี
                                                                                          ี
                      ให้ศาลสอบถามคู่ความแต่ละฝ่ายถึงความสําคัญและความจําเป็นของพยานหลักฐานท่ประสงค์จะสืบว่าเก่ยวข้อง
                                                                                     ี
            กับประเด็นแห่งคดีหรือไม่ เพียงใด หากพยานหลักฐานใดฟุ่มเฟือยเกินสมควร หรือประวิงให้ชักช้า หรือไม่เก่ยวกับประเด็น
                                                                                           ํ
                                                                                      ี
                         ื
                                                                                  ็
                                                            ่
                                                               ั
                                                            ี
                                                     ั
                                          ั
                                                                          ี
                                 ั
                                                                             ื
            แห่งคด ให้ศาลงดสบพยานหลกฐานเช่นว่าน้น หากพยานหลกฐานใดเกยวกบประเด็นแห่งคด หรอศาลเหนว่ามความจาเป็น
                 ี
            ต้องนําสืบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงแก่การพิจารณา ก็ให้ศาลสั่งให้คู่ความแต่ละฝ่ายนําพยานหลักฐานเหล่านั้นมาสืบภายในกําหนด
            นัดตามที่เห็นสมควร”
                    14   มีข้อสังเกตว่า ถ้อยคําในคําพิพากษาศาลฎีกาเอง ก็ยังคงใช้คําว่า กําหนดประเด็นข้อพิพาท โดยมิได้ใช้คําว่า
            จดประเด็นข้อพิพาท ตามตัวบทอยู่หลายฎีกา เช่น ฎีกาที่ 2966-2968/2548, 5470/2555, 11096/2556 ฯลฯ
            350
   347   348   349   350   351   352   353   354   355   356   357