Page 142 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 142
คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
| ๑๓๑
- ยื่นบัญชีระบุพยาน รวม 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับลงวันที่ 21 สิงหาคม ๒๕๖๐ จํานวน 24 อันดับ และ
ฉบับลงวันที่ 9 ตุลาคม ๒๕๖๐ จํานวน 2 อันดับ
- ยื่นแนวทางการไต่สวนพยาน ๑ ฉบับ ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน ๒๕๖๐
๑.ประเด็นตามฟ้องโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจําเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 200 พระราชบัญญัติแก้ไข
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2502 มาตรา 13 สรุปประเด็นตามคําฟ้องโจทก์ได้ว่า
ขณะเกิดเหตุจําเลยเป็นเจ้าพนักงาน โดยเป็นข้าราชตํารวจยศร้อยตํารวจเอก ตําแหน่งพนักงาน
สอบสวนสถานีตํารวจนครบาลดินแดง มีอํานาจและหน้าที่ทําการสอบสวนรวบรวม หลักฐานทุกชนิดเท่าที่
สามารถจะทําได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา เพื่อ
จะรู้ตัวผู้กระทําผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา โดยเฉพาะเมื่อเกิดคดีอาญาขึ้นจําเลยต้องไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและทําแผนที่ที่
เกิดเหตุตลอดจนบริเวณติดต่อ ตามประมวลระเบียบตํารวจเกี่ยวกับคดี บทที่ ๒ ข้อ ๘ และข้อ ๑๐ ในการ
ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจําเลยจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา 3 และเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา เมื่อ
ระหว่างวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ เวลากลางวันต่อเนื่องกันจําเลยบังอาจกระทําผิด
ต่อกฎหมายกล่าวคือ
เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๑ จําเลยได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก xxxxxxxxxxxxxx กล่าวหาและให้
ดําเนินคดีกับ xxxxxxxxxxxxxxxx ฐานพยายามฆ่า เนื่องจาก xxxxxxxxxxxxxxx ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ตน
๑ นัด และจําเลยทําบันทึกพนักงานสอบสวนว่าในวันดังกล่าวได้รับคําร้องทุกข์เป็นคดีอาญาที่ xxxxxx/xxxxx
ได้สอบปากคําผู้กล่าวหา พยาน ทําบัญชีของกลาง ส่งของกลางตรวจพิสูจน์ออกไปตรวจที่เกิดเหตุ จัดทําบันทึก
ตรวจที่เกิดเหตุ แผนที่เกิดเหตุ ต่อมาในวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๑ นายxxxxxxxxxx เข้าพบจําเลยตาม
หมายเรียก จําเลยแจ้งข้อกล่าวหาให้ xxxxxxxxxxxxxxxx ทราบ xxxxxxxxxxxxxx ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มี
เจตนาฆ่า xxxxxxxxxxxxxx แต่ใช้อาวุธปืนยิงใส่เพดานหน้าห้องพัก ๑ นัด เพื่อขู่ xxxxxxxxxxxxx หลังจากนั้น
จําเลยไม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานใดอีกจนกระทั่งวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ จําเลยจึงสรุปสํานวนมีความเห็น
ควรสั่งฟ้อง xxxxxxxxxxxxxxxx ฐานพยายามฆ่าเสนอผู้บังคับบัญชาตามลําดับชั้น ทั้งที่ความจริงแล้วในขณะที่
จําเลยมีความเห็นควรสั่งฟ้องดังกล่าว จําเลยยังไม่ได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ไม่ได้ให้ xxxxxxxxxxxxxx นําชี้ที่
เกิดเหตุแต่จําเลยกลับนําเอาภาพถ่ายการชี้ที่เกิดเหตุที่ xxxxxxxxxxxxx มอบให้จําเลย ในวันที่มารับทราบข้อ
กล่าวหารวมไว้ในสํานวน เสมือนหนึ่งว่าจําเลยได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว และจําเลยก็ทราบดีว่า
xxxxxxxxxxxxxxxx ยังคงติดตามเรียกร้องให้จําเลยไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และทําให้การของ
xxxxxxxxxxxxxxxxx ก็ขัดแย้งกับคําให้การของ xxxxxxxxxxxxxxx ข้อเท็จจริงจึงยังไม่ยุติว่ากรณีเป็นไปตาม
คําให้การของฝ่ายใด แต่จําเลยกลับรีบสรุปสํานวนคดีเห็นควรสั่งฟ้อง xxxxxxxxxxx ทั้งที่ยังไม่ได้รวบรวม