Page 189 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 189

ดุลพาห




                     การปรับข้อเท็จจริงเข้ากับกฎระเบียบข้อบังคับนี้เป็นเรื่องสำาคัญมาก แต่ต้องชั่ง
                                                                                          ๕๓
                                                             ๕๒
            นำ้าหนักคำาพยานให้ได้เสียก่อนว่า พยานใดมีนำ้าหนักฟังได้  และพยานใดไม่มนำ้าหนักรับฟัง
                     ๓.๕ การพิจารณากำาหนดโทษ

                     เราต้องนำาผลแห่งการกระทำามาพิจารณาประกอบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอน
            ของการกำาหนดโทษ ตัวอย่างเช่น การเมาสุราแล้วหลับในห้องเก็บของกับการเมาสุราแล้วขับ

            รถยนต์ส่งของแก่ลูกค้า หากเปรียบเทียบกันแล้วแน่นอนเลยกรณีแรกย่อมถูกลงโทษเบากว่า
            กรณีหลัง เป็นต้น


                     อย่างไรก็ดี เราต้องนำาเหตุบรรเทาโทษมาพิจารณาประกอบการลงโทษด้วย  แต่ถ้า
                                                                                    ๕๔
            เป็นกรณีทุจริต  หรือโกงนายจ้างแล้วไซร้ ไม่ต้องนำาเหตุบรรเทาโทษมาพิจารณาอย่างเด็ดขาด


                     ๔. เค้าโครงการทำาหนังสือสรุปผลการพิจารณาวินิจฉัยผลการสอบสวน และนำาเสนอต่อ
                     ฝ่ายจัดการ


                     ๔.๑ ข้อกล่าวหา
                     คือการตั้งเรื่องต้องกล่าวถึง การกระทำาทั้งหลายที่อ้างว่า ลูกจ้างได้กระทำาผิดข้อเท็จ

            จริง และรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลา วันที่ และสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำาผิดนั้นๆ อีกทั้งบุคคล

            หรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต้องมีเนื้อหาพอสมควรเท่าที่จะให้ฝ่ายจัดการ หรือพนักงาน
            ผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดี หากเป็นเรื่องดูหมิ่น หรือการกล่าวถ้อยคำาอันไม่สมควร

            ของลูกจ้างต้องแสดงคำาพูด หนังสือหรือสิ่งอื่นๆ อันเกี่ยวกับการดูหมิ่นไว้โดยบริบูรณ์แนบติด
            กับข้อกล่าวหาด้วย


                     ๔.๒ ข้อต่อสู้ของพนักงานผู้ถูกกล่าวหา
                     พนักงานผู้ถูกกล่าวหา มีข้อต่อสู้หรือยอมรับอย่างไรบ้าง ให้แสดงสรุปมาในคำาวินิจฉัย

            ที่เสนอต่อฝ่ายจัดการ

            ๕๒. พยานที่ฟังได้  ได้แก่  ประจักษ์พยาน  พยานที่มีเหตุมีผล  พยานแวดล้อมที่เชื่อมโยงได้  พยานคู่ที่ให้การ
              สอดคล้องกัน และพยานเอกสารซึ่งทำาขึ้นตามปกติในหน้าที่การงานของผู้ดำารงตำาแหน่งนั้นๆ.
            ๕๓. พยานที่ฟังไม่ได้ ได้แก่ ให้การไม่อยู่กับร่องกับรอย เคยโกรธเคืองกับคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาก่อน  เห็น
              เหตุการณ์ช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ให้ถ้อยคำาซัดทอดผู้อื่น
              เป็นความเห็น  (ยกเว้นผู้เชี่ยวชาญ)  ไม่สมเหตุสมผล  พยานคู่ในเหตุการณ์เดียวกันแต่พูดกันคนละเรื่อง
              และพยานบอกเล่า.
            ๕๔. เหตุบรรเทาโทษ ได้แก่ การเป็นผู้ไม่เคยกระทำาความผิดมาก่อน มีคุณงามความดีมาแต่ก่อนเก่า บรรเทา
              ผลร้ายแห่งการกระทำาผิด การรับสารภาพ และมูลเหตุจูงใจในการกระทำาผิด เป็นต้น.



            178                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193   194