Page 16 - bennew2222
P. 16
พระธำตุเจดีย์หลวงนั้นถูกสร้ำงขึ้นในในรัชสมัยพญำแสนเมืองมำ (พ.ศ. 1928 - 1945)
กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งรำชวงศ์มังรำย ซึงเป็นกษัตริย์ที่ปกครองเมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น
สร้ำงขึ้นเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พญำกือนำ พระรำชบิดำ ซึ่งมีต ำนำนเล่ำมำว่ำ
พญำกือนำซึ่งได้สวรรคตไปแล้ว ได้ปรำกฏตัวแก่พ่อค้ำชำวเชียงใหม่ที่เดินทำงไปค้ำขำยที่
พม่ำ ให้มำบอกว่ำแก่พญำแสนเมืองมำผู้เป็นโอรสว่ำ ให้สร้ำงเจดีย์ไว้ท่ำมกลำงเวียง ให้สูง
ใหญ่พอให้คนที่อยู่ไกล 2000 วำ สำมำรถมองเห็นได้ แล้วอุทิศบุญกุศลเหล่ำนนี้ให้แก่
พญำกือนำ เพื่อให้พญำกือนำนั้นสำมำรถไปเกิดในเทวโลกได้ แต่พญำแสนเมืองมำเสด็จ
สวรรคตเสียก่อน พระนำงเจ้ำติโลกจุฑำรำชเทวีผู้เป็นมเหสีได้สืบทอด เจตนำรมณ์สร้ำงต่อ
จนเสร็จในรัชสมัยพญำสำมฝั่งแกน ใช้เวลำสร้ำง 5 ป ี
ต่อมำได้มีกำรปฏิสังขรณ์ในสมัยพญำติโลกรำช (พ.ศ. 1984 - 2030) พระองค์โปรดให้
หมื่นด้ำมพร้ำคต นำยช่ำงใหญ่ท ำกำรปฏิสังขรณ์ โดยมีพระมหำสวำมีสัทธัมกิติ เจ้ำอำวำส
องค์ที่ 7 ของวัดโชติกำรำม (วัดเจย์หลวง) เป็นก ำลังส ำคัญในกำรควบคุมดูแล และ
ประสำนงำน กำรปฏิรูปและก่อสร้ำงครั้งนี้ได้สร้ำงขยำยเจดีย์ให้ใหญ่กว่ำเดิม ใช้เวลำในกำร
ก่อสร้ำง 3 ปี จึงแล้วเสร็จ
ในสมัยมหำเทวีจิรประภำ รัชกำลที่ 15 แห่งรำชวงศ์มังรำย เกิดพำยุฝนตก
หนัก แผ่นดินไหว พระมหำเจดีย์หลวงได้พังทลำยลงมำเหลือเพียงครึ่งองค์
จำกนั้นก็ถูกปล่อยทิ้งร้ำงไปนำนกว่ำ 4 ศตวรรษ พระมหำเจดีย์หลวงที่เห็น
ปัจจุบันกรมศิลปกรเพิ่งจะบูรณปฏิสังขรณ์เสร็จไปเมื่อ พ.ศ. 2535
โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน