Page 15 - book
P. 15
ประเพณีอิสล�มที่สืบทอดปฏิบัติต่อกันม�
อะกีเก�ะฮ.
กะมารุล ชุกริ ( ม.ป.ป. :61) ได้แปลคำา อะกีเกาะฮ.ว่า การตัด ซึ่งหมายถึง การทำาพิธีตัดผมหรือ
โกนผม แก่เด็กที่เกิดใหม่ และตั้งชื่อให้เด็กนั้น เริ่มตั้งแต่คลอดออกมาจนถึงบรรลุนิติภาวะ ถ้าบรรลุ
นิติภาวะแล้วยังไม่ ได้ทำาอะกีเกาะฮ. เด็กนั้นต้องทำาให้ตัวเอง บิดาจะทำาให้ไม่ได้แต่เวลาที่เหมาะสมก็คือ
เมื่อเด็กคลอดได้ 7 วัน แล้ว สัตว์ที่ใช้ในการทำาอะกีเกาะฮ. นั้นสำาหรับเด็กผู้ชายให้เชือดแพะ 2 ตัว แพะ
นั้นควรมีรูปร่างลักษณะที่ คล้ายคลึงกันทั้งสองตัวและมีอายุรุ่นเดียวกันด้วย ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงใช้เชือด
แพะหนึ่งตัว เนื้อสัตว์ที่ถูกเชือดจะ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ไว้รับประทานเอง 1 ส่วน ให้ญาติพี่น้อง 1 ส่วน
และบริจาคให้คนยากจน 1 ส่วน
ตำ�น�นขนมเค้กอิสล�มแห่งมัสยิดสวนพลู
เพื่อน ๆ มุสลิมคงไม่มีใครไม่รู้จัก ขนมบดิน หนึ่งเมนูขนมหวานซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางใน
สังคม มุสลิมและคนต่างศาสนิกทั่วไป ขนมบดิน (บอ-ดิน) คาดว่ามาจากการใช้หม้อดินในการอบ เดิม
ชื่อ “หม้อ ดิน” แต่กร่อนเสียงเป็น “บดิน” ในปัจจุบัน คาดว่าน่าจะได้มาจากกระบวนการทำาขนม ใน
อดีต ใส่หม้อดินอบ โดยเอาถ่านมาวางบนฝาหม้อเป็นไฟบนทำาให้เรียกกันว่า ขนมหม้อดิน เรียกไป
เรียกมาเลยกลายเป็น ขนมบดิน
ก�รเข้�สุหนัด
ตามคำาบอกเล่า ขนมชนิดนี้ เมื่อก่อนจะรับประทานในงานของมุสลิม ซึ่งต้นกำาเนิดมาจากพ่อ อาจารย์เสาวนีย์ จิตต์หมวด. (2535:210) ได้กล่าวว่า “สุหนัด” น่าจะเป็นคำาที่มาจาก
ครัวชาว มุสลิมคนหนึ่งที่ไปเป็นพ่อครัวในห้องอาหารฝรั่ง ทำาให้ได้เรียนรู้วิธีทำาเค้กแล้วนำามาปรับปรุง “ซุนนะห.” (ซึ่งมี ความหมายว่าการปฏิบัติและคำาชี้ขาดของศาสดามุฮัมมัด) เมื่อออกเสียงแบบไทย
ใส่นมข้นหวาน เนยกีแบบอาหารมุสลิมอื่น ๆ ทำาให้มีกลิ่นหอมและผิวหน้ากรอบนิดๆ คล้ายขนมไข่ แต่ แล้วเลยกลายมาเป็น “สุหนัด” แต่ภาษาอาหรับเรียกว่า “คอตั้น” ส่วนภาษายาวีใช้คำาว่า “มาโซะยา
เนื้อขนมจะนุ่มและ แน่น ไม่ร่วน เท่าขนมไข่กุฎีจีน อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ชุมชนมัสยิด วี” ทั้งหมดนี้มีความหมายที่เกี่ยวกับการขลิบ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายที่ชายมุสลิมทุกคนต้องเข้าสุ
สวนพลูธนบุรีซึ่งเป็นต้น กำาเนิดขนมชนิดนี้อยู่ไม่ไกลจากชุมชนจีนที่ทำาขนมไข่กุฎีจีน อาจจะเป็นการ หนัดเช่นกันจึงถือว่าเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์ เพราะแม้แต่ ศาสดามุฮัมมัดยังปฏิบัติและได้สั่งให้มุสลิมทุกคน
เรียนรู้และนำามาพัฒนาเป็นขนม ของแต่ละชุมชนได้ ปฏิบัติตาม
14 15