Page 28 - E-bookAyutthaya99_Neat
P. 28
ประเพณีเดือนสิบเอ็ด
้ ่ ่
เดือนสิบเอ็ดนีสมัยกรุงศรีอยุธยามีพิธีแผ่นดินทีสำาคัญมากอยู่พิธีหนึงคือพิธีแข่งเรือ เรือหลวง
่ ่ ้
ทีเข้าแข่งชือเรือสมรรถไชยของพระเจ้าอยู่หัวกับเรือไกรสรสุขของสมเด็จพระมเหสี การแข่งเรือนียัง
่ ่
เป็นการเสียงทายอีกด้วยคือถ้าเรือสมรรถไชยแพ้ก็แสดงว่าข้าวเหลือเกลืออิม พลเมืองเป็นสุข ถ้า
่
สมรรถไชยชนะ บ้านเมืองก็จะมีเรืองเดือดร้อน
ประเพณีเดือนสิบสอง
่ ่
ประเพณีลอยกระทงในเดือนสิบสองเป็นประเพณีทีประชาชนไทยนิยมชืนชมกันหนักหนา เพราะ
่
่
่
ก่อให้เกิดความสุขการสุขใจเป็นพิเศษนันเองก่อนทีจะนำาคำาประพันธ์ของ นายมี ทีบรรยายถึงเดือน
่
สิบสองมาลงไว้ประกอบเรืองก็ใคร่จะเขียน ให้ทราบว่าในเดือนสิบสองในสมัยกรุงศรีอยุธยามีประเพณี
พระราชพิธีอะไรบ้าง มีพระราชพิธีจองเปรียงตามประทีป (ชักโคม) ในพระราชวังแลตามบ้านเรือนทัง ้
้
่
ในรพระนครและนอกพระนครทัวกัน กำาหนด ๑๕ วัน (๒) ถึงวันขึน ๑๕ ค่ำา โปรดให้ทำาจุลกฐิน คือทอด
้
ผ้าให้เสร็จในวันเดียวแล้ว (เอาผ้าผืนนันพระราชทานกฐิน)
ประเพณีสงกรานต์
่
ประเพณีสงกรานต์แต่ละแห่งย่อมผิดแผกแตกต่างกันไป และเปลียนแปลงไปตามยุคสมัย หาก
่
จะกล่าวถึงพระราชพิธีละแลงสุก(เถลิงศก) เมือสงกรานต์แทน (๑) พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาเสด็จไป สรง
น้ำาพระพุทธปฏิมากรศรีสรรเพชญ์ พระพิฆเนศวร (๒) โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะเข้ามาสรงน้ำา
่ ้ ่
รับพระราชทานอาหารบิณฑบาต จตุปัจจัยทาน ทีในพระราชวังทัง ๓ วัน (๓) ทรงก่อพระเจดีย์ทรายที
้
่
้
วัดพระศรีสรรเพชญ์ และมีการฉลองพระเจดีย์ทรายด้วย (๔) ตังโรงท่อทานเลียงพระแลราษฎรซึงมา
่ ้
แต่จตุรทิศ มีเครืองโภชนาอาหารคาวหวาน น้ำากิน น้ำาอาบและยารักษาโรค พระราชทานทัง ๓ วัน
ประเพณีการลงแขกทำานา
่ ่ ่
ประเพณีลงแขกทำานานับเป็นประเพณีอีกประเพณีหนึงทีชาวกรุงศรีอยุธยารักษาเอาไว้ คือ เมือถึงฤดู
่ ่ ้ ้
เกียวข้าว ชาวนาก็ช่วยกันเก็บเกียว ร้องรำาทำาเพลงกันไปบ้าง ได้ทังงานได้ทังความเบิกบานสำาราญใจ
้ ้
และไมตรีจิตมิตรภาพ ทุกวันนีก็ยังคงปฏิบัติกันอยู่ประเพณีนีแสดงให้เห็นถึงความพร้อมเพรียง ความ
่
รักพวกพ้องของชาวกรุงศรีอยุธยา เป็นการปฏิบัติเข้าทำานองสุภาษิตทีว่า โบราณว่า ถ้าเหลือกำาลัง
่
ลากให้ออกปากบอกแขกช่วยแบกหามเท่ากับเป็นเครืองยืนยันถึงลักษณะนิสัยใจคอของคนไทยใน
่
สมัยก่อนอีกกรณีหนึง
วัฒนธรรมทางวรรณกรรม
่
้
้
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีนันกรุงศรีอยุธยารุ่งเรืองมากทีสุดสุดจะพรรณนาให้จบสินได้
จะขอยกมากล่าวเฉพาะวัฒนธรรมทางวรรณกรรมแต่อย่างเดียว ผู้เขียนวรรณกรรมสมัยเก่ามักจะ
้ ่
ขึนต้นเรืองด้วยคำายกย่องพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ไทย และสรรเสริญความงามความเจริญ
่ ้
ของเมืองไทย เช่น ลิลิตพระลอ ซึงได้รับการยกย่องว่าเป็นวรรณคดีชินเอก สันนิษฐานว่าแต่งในสมัย
่ ่
สมเด็จพระนารายณ์ และขุนช้างขุนแผน จัดเป็นวรรณกรรมทีมีความหมายเกียวกับความเป็นระเบียบ
่
ในการกินอยู่ ซึงนับเป็นความเจริญทางวัตถุเช่นตอนชมเรือนขุนช้าง