Page 27 - Buddhist
P. 27

23

                                                           กรอบที่  16



                                                                                   วันมำฆบูชำ


                                                                    วันมาฆบูชาเป็นวันที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

                                                             ทรงประทานพระโอวาทส าคัญอันถือได้ว่าเป็นหัวใจของ
                                                             ค าสอนในพระพุทธศาสนา คือ โอวำทปำฏิโมกข์ ในวันเพ็ญ

                                                             (ขึ้น 15 ค ่า) เดือนสาม ดวงจันทร์โคจรมาเสวยมาฆฤกษ์ แต่

                                                             ถ้าปีใดมี อธิกมำส คือ เดือนแปดสองแปด วันมาฆบูชาก็จะ

                                                             เลื่อนไปเป็นวันเพ็ญกลางเดือนสี่ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิด

                                                             ขึ้นที่ พระเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ในปีแรกของ
                                                             ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ คือ หลังจากตรัสรู้แล้วได้ 9 เดือน
                   www.rd1677.com/branch.php?id=51673

                         ความประจวบกันพอดีของเหตุการณ์ในวันนี้ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ มีสี่ประการคือ

                                     ประกำรแรก  เป็นการมาชุมนุมกันของพระสงฆ์สาวก จ านวน 1,250 รูป เพื่อเฝ้าพระบรม

                   ศาสดา โดยมิได้นัดหมาย

                                     ประกำรที่สอง  พระสงฆ์สาวกดังกล่าวล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
                                    ประกำรที่สำม  พระสงฆ์สาวกดังกล่าวล้วนแต่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าด้วยวิธี

                   เอหิภิกขุอุปสัมปทา

                                     ประกำรที่สี่   วันนั้นดวงจันทร์เพ็ญเสวยมาฆฤกษ์เต็มบริบูรณ์
                          ความพร้อมกันขององค์สี่ประการจึงเรียกว่า จำตุรงคสันนิบำต โอวาทปาฏิโมกข์  ที่พระพุทธเจ้าทรง

                    แสดงเป็นการประมวลค าสอนหลักของพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระสงฆ์สาวกน าไปประพฤติปฏิบัติ และน า

                    ไปสั่งสอนผู้อื่นในแนวทางเดียวกัน คือทรงเทศน์โอวาทปาติโมกข์ในที่ ประชุมสงฆ์ซึ่งเป็นมหาสังฆนิบาต คือ
                              1.   ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะสูง พระพุทธะทั้งหลายกล่าวว่านิพพานเป็นธรรมสูงสุด

                    คนท าร้ายคนอื่นไม่ใช่บรรพชิต คนเบียดเบียนคนอื่นไม่ใช่สมณะ

                              2.   การไม่ท าชั่วทั้งปวง การท าแต่ความดี การท าใจให้บริสุทธิ์ นี้คือค าสอนของพระพุทธทั้งหลาย

                              3.   การไม่ว่าร้าย การไม่ท าร้าย การส ารวมในปาฏิโมกข์   การรู้จักประมาณในอาหาร การอยู่ใน
                  ที่สงัด การบ าเพ็ญสมาธิ นี่เป็นค าสอนของพระพุทธเข้าทั้งหลาย

                         พิธีมาฆบูชานี้มีขึ้นครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 4   ในวันนี้พุทธศาสนิกชนก็จะไปประกอบศาสนกิจ เพื่อน้อม

                  ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เช่นเดียวกับที่   ประพฤติปฏิบัติในวันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา คือ น าดอกไม้

                  ธูป เทียน ไปนมัสการปูชนียวัตถุที่ส าคัญ อันได้แก่  พระธาตุเจดีย์  หรือพระพุทธปฏิมาเป็นต้น  และฟังพระ
                  ธรรมเทศนาการแสดงธรรมในวันนี้ จะแสดงธรรมในเรื่องพระโอวำทปำฏิโมกข์
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32