Page 27 - เนื้อหา
P. 27
4.กำรริบหุ้น
ในการช าระค่าหุ้นเป็นงวดๆ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1. บริษัทเรียกเงินค่าหุ้นแต่ละคราว ให้กรรมการส่งค าบอกกล่าวล่วงหน้าไม่ต่ ากว่า 21 วันด้วย
จดหมายส่งทางไปรษณีย์ด้วยการลงทะเบียน
2. ผู้ถือหุ้นคนใดไม่ส่งใช้ตามวันก าหนดที่ได้บอกกล่าว ผู้นั้นจ าต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่
ก าหนดให้ส่งใช้จนถึงวันที่ได้รับส่งเสร็จ อัตราดอกเบี้ยถ้าบริษัทไม่ได้ก าหนดไว้ในหนังสือข้อบังคับของ
บริษัทแล้ว จ าเป็นต้องเสียอัตราตามกฎหมายคือ ร้อยละ 7.5 ต่อปี ในส่วนของดอกเบี้ยนั้นกฎหมาย
มิได้บังคับตายตัวจะต้องเสียดอกเบี้ยเสมอไป ขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาของกรรมการบริษัทจ ากัด
3. กรรมการบริษัททวงเงินค่าหุ้นรวมทั้งดอกเบี้ย โดยส่งจดหมายลงทะเบียนไปอีกครั้ง และใน
จดหมายให้บอกด้วยว่าถ้ายังไม่ใช้ค่าหุ้นรวมทั้งดอกเบี้ยจะท าการริบหุ้น
4. บริษัทจ ากัดได้ปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นแล้วยังไม่ได้รับเงินค่าหุ้นอีก ให้กรรมการบริษัทบอก
ริบหุ้นทุนนั้นๆ ได้
5. หุ้นทุนที่บริษัทริบแล้วนั้นให้น าออกขายทอดตลาดโดยไม่ชักช้า ได้จ านวนเงินสดเท่าใดให้น ามา
หักใช้ค่าหุ้นที่เรียกกับดอกเบี้ยค้างช าระ ถ้ายังมีเงินเหลือเท่าใดต้องส่งคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นนั้นแต่ถ้าเงินที่
ได้รับจากการขายทอดตลาดมีไม่พอที่จะช าระเงินค่าหุ้นที่เรียกเก็บกับดอกเบี้ยค้างช าระบริษัทจะ
เรียกร้องเอาเงินจากผู้ถูกริบหุ้นได้หรือไม่นั้น บริษัทควรระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทให้ชัดเจน
ในการศึกษาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ถึงการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการริบหุ้น จึงน าวิธีที่ก าหนดตาม
กฎหมำยไทยและกฎหมำยต่ำงประเทศซึ่งมีอยู่ 4 วิธี คือ
1. ริบหุ้นตามกฎหมายไทย
2. คืนเงินให้หมด
3. รีบเงินที่ช าระแล้วทั้งหมด
4. ออกใบหุ้นตามสวนที่ช าระมาครบตามมูลค่า
~ 23 ~