Page 44 - พลังงานและสิ่งแวดล้อม
P. 44

38


               ดังนั้นในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลจึงได้สร้างโรงงานแยก  ตําบล มาบตาพุด จังหวัดระยอง

               ทําให้สามารถแยกแก๊สต่างๆ ออกมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น


                       แก๊สธรรมชาติส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารที่มีคาร์บอนเพียง 1 อะตอม เรียกวา

               ประมาณร้อยละ 80 - 95 แล้วแต่แหล่งกําเนิด นอกนั้นเป็นสารไฮโดรคาร์บอนที่มีจํานวน

               การ อะตอม ส่วนที่เหลือเล็กน้อยเป็นไอปรอท  แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

               ไฮโดรเจนซัลไฟด์เนต การนําแก๊สธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ต้องขุดเจาะสารจากใต้พื้นดิน


               ขึ้นมา ซึ่งมีทั้งสารและแก๊สผสมกัน จากนั้นแยกสารทั้งสองส่วนนี้ออกจากกัน แล้วส่งแก๊ส

               ผสมไปกําจัดสาร ไม่ต้องการ เช่น ปรอท คาร์บอนไดออกไซด์  และน้ํา จากนั้นจึงผ่าน

               แก๊สผสมเข้าสู่หอกสันเพอกาส  แต่ละชนิด ได้แก่ มีเทน อีเทน โพรเพน และแก๊สอื่นๆ

               เพื่อนําไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน


                       แก๊สปิโตรเลียมเหลวหรือแก๊สแอลพีจี ส่วนใหญ่เป็นแก๊สผสมระหว่างแก๊สโพรเพน

               ซึ่งมจานวน คาร์บอน 3 อะตอม กับแก๊สบิวเทน ซึ่งมีจํานวนคาร์บอน 4 อะตอม จัดเป็น

               แก๊สเชื้อเพลิงที่ใช้ประโยชน์  มากที่สุด ทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม  ตามบ้านเรือน และ


               ร้านค้าทั่วไป รวมทั้งใช้กับรถยนต์ คนทั่วไป จะเรียกแก๊สนี้ว่า แก๊สหุงต้ม   แก๊สหุงต้ม

               เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด ไม่มีเขม่า และควัน ใช้งานสะดวก และราคาถูก แต่ไวไฟมาก หาก

               ประมาทอาจเกิดอัคคีภัย หรือระเบิด ซึ่งเป็นอันตรายอาจทําให้เสียชีวิตได้






















                                  รูปที่ 3.6 แผนภาพแสดงการใช้ประโยชน์จากแก๊สธรรมชาติ
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49