Page 378 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

ด้านอุตุนิยมวิทยาในปี 2519 นี้ ฝนจะเริ่มทิ้งช่วงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่ความชื้นและสภาพอากาศ

โดยทั่วไปยังอํานวยพอที่จะทําฝนหลวงได้ โดยแบ่งช่วงการปฏิบัติการออกเป็น 2 ช่วง

วันที่ 14 ตุลาคม - 23 ตุลาคม 2519

ใช้สนามบินเชียงใหม่เป็นฐานปฏิบัติการ ปฏิบัติการเพิ่มปริมาณฝนช่วยการทํานาให้จังหวัด

ลําพูนและลุ่มรับนํ้าของเขื่อนภูมิพลตอนบน เพื่อเพิ่มปริมาณนํ้าเหนือเขื่อน

วันที่ 24 ตุลาคม - 31 ตุลาคม 2519

ใช้สนามบินเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เป็นฐานปฏิบัติการ ปฏิบัติการเพิ่มปริมาณนํ้าให้
เขื่อนภูมิพล

ค. การทดลองค้นคว้าและพัฒนากรรมวิธีปรับปรุงสภาพอากาศ

การค้นคว้าทดลองและพัฒนากรรมวิธีปรับปรุงสภาพอากาศ นอกจากเพื่อให้เหมาะกับสภาพ
เกษตรกรรมโดยตรงแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการคมนาคมทางอากาศด้วย หากจะนํากรรมวิธีนี้

ไปทําลายเมฆหมอกที่ปกคลุมสนามบินหรือลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้ขึ้นลงได้โดยปลอดภัย

การค้นคว้านี้ได้เริ่มมาทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 และทําการทดลองพัฒนากรรมวิธีก้าวหน้า

มาเรื่อยๆ โดยเลือกช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศคล้ายคลึงกันของทุกปี ระหว่างกลางเดือนธันวาคม –
กลางเดือนมีนาคมของทุกปี และเลือกพื้นที่ภูมิประเทศบริเวณเดียวกันในภาคเหนือ โดยใช้สนามบิน

เชียงใหม่เป็นฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ตัวเลขเปรียบเทียบใกล้เคียงกันในแง่วิชาการ

สารเคมีที่ทดลองใช้ได้พัฒนาการก้าวหน้ามาตามลําดับ ดังนี้
พ.ศ. 2515 ทดลองใช้นํ้าร้อนและนํ้าแข็งแห้ง

พ.ศ. 2516 ทดลองใช้แคลเซี่ยมคลอไรด์
พ.ศ. 2517 ทดลองใช้แคลเซี่ยมคาร์บายด์

พ.ศ. 2518 ทดลองใช้แคลเซี่ยมคลอไรด์ และ แคลเซี่ยมคาร์บายด์
พ.ศ. 2519 ทดลองใช้แคลเซี่ยมคาร์บายด์ และ แคลเซี่ยมคลอไรด์

การปฏิบัติการปี 2519 ส่วนใหญ่ทดลองปฏิบัติการทําลายเมฆหมอกที่ปกคลุมลานจอด
เฮลิคอปเตอร์ที่เสด็จพระราชดําเนินเยี่ยมชาวไทยภูเขาเป็นส่วนใหญ่

จากการค้นคว้าทดลองพอสรุปผลทางวิชาการได้ดังนี้

1. ถ้าเมฆหมอกปกคลุมพื้นที่ไม่เกิน 3,000 ฟิตจากพื้นดิน ใช้ผงแคลเซี่ยมคาร์บายด์เพียง
อย่างเดียว จํานวนไม่น้อยกว่า 500 กก. จะสามารถเปิดบริเวณที่เมฆหมอกปกคลุมให้เฮลิคอปเตอร์

สามารถขึ้นลงได้ภายใน 20 – 45 นาที แล้วแต่ความหนาแน่นของเมฆหมอก

329