Page 379 - เอกสารฝนหลวง
P. 379
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
2. ถ้าเมฆหมอกหนาจากพื้นดินเกิน 3,000 ฟิตขึ้นไป ต้องใช้สารเคมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตาม
อัตราส่วนความหนาที่เกินกว่า 3,000 ฟิตขึ้นไป อาทิเช่น เมฆหมอกหนากว่า 3,000 ฟิตขึ้นไปอีก
1,000 – 2,000 ฟิต ต้องใช้ผงแคลเซี่ยมคาร์บายด์เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 500 กก. (ใช้ทั้งหมดประมาณ
1,000 กก.) เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องใช้เครื่องบินปอร์ตเตอร์ 2 เครื่อง หรือเครื่องบินที่ใหญ่กว่า
ง. การประเมินผล
1. ประเมินผลปฏิบัติการช่วยเหลือการเพาะปลูก
1.1 ในปี พ.ศ. 2519 มีผู้ร้องเรียนขอฝนหลวงรวมทั้งสิ้น 132 ราย รวมเป็นจังหวัดที่ร้องเรียน
ขอฝนหลวง รวม 51 จังหวัด เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด จังหวัดใน
ภาคเหนือ 13 จังหวัด จังหวัดในภาคกลาง 10 จังหวัด จังหวัดในภาคใต้ 6 จังหวัด จังหวัดในภาค
ตะวันออก 6 จังหวัด สําหรับบางจังหวัดในภาคใต้ไม่สามารถปฏิบัติการช่วยเหลือได้ เพราะภาวะ
แห้งแล้งเกิดขึ้นพร้อมกันทุกภาค ทําให้มีเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไม่เพียงพอ
1.2 สรุปช่วงการปฏิบัติการฝนหลวง จําแนกออกเป็นช่วงได้ดังนี้
ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน
– เป็นการช่วยเหลือสวนผลไม้
– เป็นการช่วยเหลือพืชไร่ เริ่มลงมือเพาะปลูกรุ่นที่ 1 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวโพด อ้อย
และมันสําปะหลัง
ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน
– เป็นการช่วยเหลือพืชไร่เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ปลูกข้าวโพดรุ่นที่ 1
ซึ่งกําลังอยู่ในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกผสมพันธุ์
– เป็นการช่วยเหลือการทํานาหว่านและการตกกล้า
ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม
– เป็นการช่วยเหลือการทํานา ทั้งนาหว่านและนาดํา รวมทั้งการตกกล้าเพิ่มเติมให้เพียงพอ
และช่วยให้มีนํ้าเพียงพอในการไถเตรียมดินสําหรับการปักดํา
– เป็นการช่วยเหลือพืชไร่ เช่น ข้าวโพด ปอ มันสําปะหลัง ฝ้าย ซึ่งเป็นการปลูก
ในรุ่นที่สอง
ระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคม
– เป็นการช่วยเหลือเพิ่มปริมาณนํ้าให้แก่การทํานาที่จะทําให้การเจริญเติบโต และเก็บเกี่ยว
ได้ผลผลิตสูง ข้าวไม่แห้งเนื่องจากขาดนํ้าซึ่งเป็นระยะสําคัญที่สุดในการเพิ่มผลผลิต
330

