Page 411 - เอกสารฝนหลวง
P. 411

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

                       เศษซากพืชและอินทรียวัตถุส่วนใหญ่จมอยู่ใต้นํ้า  จึงสลายตัวอย่างเชื่องช้า  ดินชนิดนี้เรียกว่าดินอินทรีย์

                       มีสีนํ้าตาล  นํ้าหนักเบา  และอุ้มนํ้าได้ดี  ป่าพรุโต๊ะแดงนี้มีดินอินทรีย์ปิดหน้าดินเดิมไว้  หนาตั้งแต่
                       0.5 – 5.0 เมตร  เมื่อประสบสภาวะแห้งแล้งรุนแรงและระดับนํ้าใต้ดินลดตํ่าลงมาก  จึงกลายเป็น

                       เชื้อเพลิงใต้ดิน

                                 1.5 มาตรการ และปัญหาในการดับไฟป่ าพรุโต๊ะแดง

                                 พอสรุปได้เป็น 2 ช่วง คือ
                              1.5.1   ช่วงเดือนเมษายน (ก่อนมีการปฏิบัติการฝนหลวง)

                                     1)  ทางภาคพื้นดิน ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป
                                         1.1)  ใช้เครื่องสูบนํ้าของกรมชลประทาน  ขนาด 12”  จํานวน 21  เครื่อง

                       เครื่องสูบอัดนํ้าจากคลองสุไหงปาดี  และคลองสุไหงโกลกเข้าไปในพื้นที่พรุ  แต่คลองทั้งสองมีปริมาณนํ้า
                       ในท้องนํ้าน้อย  โดยเฉพาะคลองสุไหงโกลก  ทําให้นํ้าเค็มทะลักเข้ามาจนไม่สามารถสูบนํ้าเข้าไปในพรุได้

                       นอกจากนั้นยังพยายามปั๊มนํ้าจากแม่นํ้าบางนรา  และแม่นํ้าตากใบ  เข้าพื้นที่พรุอีกทางหนึ่งด้วย

                                         1.2)  ใช้กําลังพลเดินเท้ารวม 440 นายเข้าไปดับหัวไฟและพักแรมในพื้นที่
                       แล้วส่งกําลังบํารุงทางเฮลิคอปเตอร์  แต่เสี่ยงอันตรายจากไฟและควันไฟ  และบางพื้นที่ไม่สามารถ

                       เดินเท้าฝ่าเข้าไปได้
                                         1.3)  ใช้รถแบ็คโฮ  ขุดแนวกั้นไฟไม่ให้ลุกลามต่อไป  และให้เป็นร่องนํ้า  และ

                       แหล่งนํ้าพอใช้ดับเพลิงได้บ้าง  แต่บางพื้นที่รถดับเพลิง  และแบ็คโฮไม่สามารถเข้าไปได้  เนื่องจาก
                       ดินพรุโปร่งรับนํ้าหนักเครื่องจักรไม่ได้ สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถควบคุมลูกไฟ

                       ไม่ให้ลอยตามลมข้ามไปตกในพื้นที่ใต้ลม ทําให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอีก
                                     2)  ทางอากาศ

                                 ช่วงปลายเดือนตั้งแต่ 24 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2541   ใช้เฮลิคอปเตอร์ชีนุก
                       ซึ่งลําเลียงนํ้าได้เที่ยวละเป็นตันของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์เล็กซึ่งลําเลียงนํ้าได้เที่ยวละไม่กี่ร้อยลิตร

                       บินลําเลียงไปดั๊มท์ลงสู่จุดหัวไฟวันละหลายเที่ยว  แต่สามารถควบคุมได้เฉพาะจุดที่ไฟลุกไหม้บนผิวดิน

                       ในชั่วขณะหนึ่ง  แล้วกลับคุขึ้นมาอีก  ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบินสูง  จึงได้รับคําสั่งให้หยุด
                       ปฏิบัติการ

                              1.5.2   ช่วงเดือนพฤษภาคม (เป็นช่วงที่มีปฏิบัติการฝนหลวง)
                                 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้มีคําสั่งให้คณะปฏิบัติการฝนหลวงไปตั้งฐานปฏิบัติการ

                       ที่สนามบิน จังหวัดนราธิวาส ตามพระราชกระแส ลงมือปฏิบัติการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2541
                       เป็นต้นไป  ควบคู่กับมาตรการทางภาคพื้นดิน ดังกล่าว ในข้อ (1.14 – 1.3) ดังจะได้กล่าวถึงรายละเอียด

                       ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในบทต่อไป






                                                              359
   406   407   408   409   410   411   412   413   414   415   416