Page 412 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

2.ที่มาของการทําฝนหลวงพิเศษดับไฟป่ าพรุโต๊ะแดง พ.ศ. 2541

2.1ความสําคัญของการปฏิบัติการฝนหลวง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงสถานการณ์ไฟป่าพรุโต๊ะแดงยิ่ง เพราะนอกจาก
สูญเสียสภาพป่าสมบูรณ์ และป่าอนุรักษ์แล้ว ยังทําลายระบบนิเวศวิทยา และเกิดมลภาวะเนื่องจาก

ควันไฟที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ล้อมรอบพรุอย่างรุนแรงอีกด้วย
จากสภาพปัญหาและข้อจํากัดของมาตรการดับไฟป่าต่างๆ ที่กระทําไปแล้วและกระทําอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟคุไหม้ดินได้ดังกล่าว ในข้อ 1. ทรงพระกรุณาพระราชทานข้อแนะนํา ดังนี้

2.1.1 ทรงแนะนํารัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทําฝนหลวงเฉพาะกิจเพื่อ
ปฏิบัติการควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ ที่กําลังทําอยู่

2.1.2 พระราชทานข้อแนะนําทางเทคนิคโดยเฉพาะ สําหรับปฏิบัติการฝนหลวงในภารกิจ
พิเศษดับไฟป่าพรุโต๊ะแดง ผ่านทาง ฯพณฯ องคมนตรี และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและ

สหกรณ์ คือ เทคนิคการใช้นํ้าแข็งแห้งในการชักนําความชื้นเข้าสู่พื้นที่ และชักนําให้ฝนตกลงสู่พื้นที่
เป้าหมายรวมทั้งบริเวณเทือกเขาที่เป็นต้นนํ้าลําธารของพรุโต๊ะแดง

2.1.3 ทรงแนะนํา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรง และ
ผ่านทาง ฯพณฯ องคมนตรี ให้ตามตัวผู้เชี่ยวชาญ นาย เมธา รัชตะปีติ อดีตผู้อํานวยการสํานักงาน

ปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งเกษียณอายุไปแล้วกว่า 10 ปี แต่ทรงเห็นว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญและสันทัด
ซึ่งเป็นผู้สันทัดในการปฏิบัติการตามข้อแนะนําทางเทคนิคพระราชทานโดยเฉพาะเทคนิคในการใช้

นํ้าแข็งแห้งให้มาร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าในครั้งนี้ด้วย

2.2 คณะปฏิบัติการฝนหลวง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีคําสั่งให้จัดส่งคณะปฏิบัติการฝนหลวงมาตั้งฐานปฏิบัติการ

ที่ท่าอากาศยาน จังหวัดนราธิวาส ลงมือปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป
ประกอบด้วย

อากาศยาน : เครื่องบินกาซ่า หมายเลข 1533 และ 1534 รวม 2 เครื่อง แต่ละเครื่อง
สามารถบรรทุกนํ้าหนักสารเคมีสุทธิได้เที่ยวบินละ 1,000 – 1,200 กก.

เจ้าหน้าที่ : นักวิชาการ 3 นาย มี นายอาคเนย์ บุญเลิศ เป็นหัวหน้าคณะ โดยมีช่างและ
พนักงานโปรยสารเคมี รวม 16 นาย

นักบิน : นักบินรวม 6 นาย มี พ.ต.บรรเจน มั่งคั่ง เป็นหัวหน้านักบิน โดยมีช่างอากาศยาน
และลูกมือ รวม 20 นาย

360