Page 455 - เอกสารฝนหลวง
P. 455
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
การปฏิบัติการฝนหลวงปี 2543 ตามพระบรมราโชบาย
การปฏิบัติการฝนหลวงปี 2543 นี้ เป็นการดําเนินงานที่สืบเนื่องจากความสําเร็จในการปฏิบัติการ
ฝนหลวงพิเศษกู้ภัยแล้ง ปี 2542 และจากการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปลัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์นําคณะผู้บริหารของสํานักฝนหลวงและการบินเกษตร และเจ้าหน้าที่คณะปฏิบัติการ
ฝนหลวงพิเศษ พ.ศ. 2542 ทั้งฝ่ายวิชาการและการบิน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตําหนัก
จิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2542 ในการนี้ได้ทรงพระกรุณาถ่ายทอดเทคโนโลยีฝนหลวง
และพระราชทานแนวพระบรมราโชบายแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงน้อมรับพระราชกระแสดังกล่าวข้างต้นใส่เกล้าใส่กระหม่อม
และมอบหมายให้สํานักฝนหลวงและการบินเกษตรรับไปดําเนินการดังนี้
1. นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1.1 กําหนดเป็นนโยบายให้ถือปฏิบัติตามพระราชกระแสรับสั่งและพระบรมราโชบาย
เป็นภารกิจที่สําคัญที่สุดที่ต้องปฏิบัติเป็นอันดับแรก ก่อนภารกิจอื่นใด
1.2 ให้ถือปฏิบัติตามพระบรมราโชบาย ข้อแนะนําทางเทคนิคและตําราฝนหลวง
พระราชทานให้เป็นในแนวทางเดียวกัน และให้ถือแนวทางในการปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษกู้ภัยแล้ง
พ.ศ. 2542 เป็นแบบอย่าง
2. วัตถุประสงค์ในการปฏิบัติการฝนหลวงปี 2543
เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงตามพระบรมราโชบาย ในการดูแลแก้ไขและป้องกันปัญหาขาดแคลน
ทรัพยากรนํ้าในพื้นที่เป้าหมายลุ่มรับนํ้าต่างๆ โดยเน้นปฏิบัตการเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 เป็นการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงฤดูแล้ง (มกราคม – เมษายน) ด้วยจุดประสงค์
ที่จะทําฝนเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับบรรยากาศ พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ เพื่อป้องกันหรือ
บรรเทาภาวะแห้งแล้งด้านการเกษตรและความรุนแรงของไฟป่า ซึ่งจะช่วยในการชะลอหรือลดปริมาณ
การระบายนํ้าของเขื่อนต่างๆ ที่ใช้หล่อเลี้ยงระบบชลประทานและผลักดันนํ้าเค็ม โดยเฉพาะในพื้นที่
ลุ่มนํ้าในภาคเหนือ ลุ่มนํ้าเจ้าพระยา และลุ่มนํ้าสําคัญอื่นๆ
ระยะที่ 2 ปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม – ตุลาคม) ด้วยจุดประสงค์ที่จะเพิ่ม
ปริมาณและการกระจายของฝนให้สมํ่าเสมอเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช ป้องกันมิให้เกิดภาวะ
ฝนทิ้งช่วงระยะยาวจนพืชผลเสียหาย และเพิ่มปริมาณนํ้าเก็บกักของเขื่อนต่างๆ ให้สูงถึงเป้าหมาย 80%
เป็นอย่างตํ่า ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมิให้เกิดการขาดแคลนทรัพยากรนํ้าในฤดูแล้งของปีถัดไปแล้ว
ยังจะช่วยให้สามารถเริ่มการเพาะปลูกได้ตั้งแต่ต้นฤดู และเพิ่มปริมาณพื้นที่เพาะปลูกพืช
395

