Page 687 - เอกสารฝนหลวง
P. 687

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง


                       หน้าที่ของอาจารย์เมธา ก็คือ ไม่ให้เม็ดฝนที่ลงมาแล้วกลับคืนไป ระเหยขึ้นไปใหม่ หรือบอกว่าต้องมี

                       สูตรเย็นมาใส่ข้างล่าง ถ้าให้ดีจริง ๆ ต้องใส่สูตรเย็น  เย็นจัด  อยู่ใกล้พื้น  เอานํ้าแข็งแห้งโปรยแล้วก็

                       ฝนก็จะลงอันนี้หลักการทีนี้ฝนเราอยากได้ฝนต้องใส่ฝนไว้ให้ในที่ที่เหมาะสม นี่เขาจะทําในทะเลฝนจะลง
                       ในทะเลเป็นนิทรรศการ เป็นการสาธิต  แต่ว่าที่เราต้องทํา ต้องดึงให้ฝนนั้นไปลง  ในที่ที่เรียกว่าลุ่มรับนํ้า

                       ที่เราต้องการรับนํ้า   แต่วันนี้ไม่สน เพราะว่าอันนั้นต้องทําหลายวันให้รู้ แต่วันนี้พยายามที่จะให้เครื่องบิน
                       ขึ้นไปแล้วก็ไปปล่อยวัสดุ ไม่ค่อยชอบที่จะบอกเป็นวัสดุเคมี  เพราะว่าฝนนี่ไม่ใช่เคมี  มันเป็นฟิสิกส์

                       คือเกี่ยวข้องกับความร้อน ความเย็น เกี่ยวข้องก็ที่จะให้ความร้อนทําให้ นํ้าระเหย ความเย็นทําให้

                       นํ้าควบแน่น แล้วความเย็นเพื่อจะดึงให้นํ้าที่เป็นนํ้าลงมาถึงพื้น  ไอ้นี่เป็นหลักการสําคัญ  ต่อไปจะแสดง
                       ได้ว่าฝนเป็นเมฆก้อนโต   แล้วก็อยากจะนําเมฆไปที่ไหนต้องล่อเขา  ต้องจูงเขา  อะไรนี่ไม่ว่ากันวันนี้

                       แต่ว่าสําคัญที่จะก่อเมฆขึ้นมาอันนี้เป็นการบ้านคือการก่อเมฆ ”

                              “ ทีนี้ให้ดูรูปที่ถ่ายด้วยกล้องนี้  มันอยู่ในทะเลนี่เราไม่ได้ทํา  อาจารย์เมธาไม่ได้ทํา  ธรรมชาติ

                       เขาทํา เป็นเมฆแล้วก็มีความเย็น  ฝนก็ลงมาถึงพื้น  ถึงทะเล  ส่วนนี้เขามีความร้อนก็ได้ขึ้นไป  แต่นี่ก็
                       หน้าตาเหมือนผี  เขาหัวเราะฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..  ทําฝนได้  นี่รูปนี้ภูมิใจมากที่ได้ถ่าย  ถ่ายจากที่ไกลกังวล

                       ก็เห็นอันนี้เป็นการสรุปฝนที่ทํา  ต้องทําให้เกิดก่อนก้อนเมฆมีแล้ว  เสร็จแล้วทําให้ลงมานี่   แล้วให้รักษา

                       ความเย็นให้ลงมาถึงพื้น  แล้วลงในที่เป้าหมาย  ถ้าอยากจะจูงไอ้นี่มีวิธีคือ  ใส่สูตรให้ร้อนมันก็ขึ้นไปใหม่
                       ความร้อนเมื่อร้อน  เวลาขึ้นไปมันมี (Vacuum) สูญญากาศ  ไอ้นี่ก้อนนี้มันก็จะลงมา จะแล่นมา

                       จูงมาที่ตรงไหนที่ต้องการก็ได้  ถึงเวลาถึงตรงนั้นแล้วเราก็ใส่เย็นมันก็ลงไป  ส่วนไอ้นี่คล้ายทําพวกนี้

                       ส่วนอันนี้เขาอธิบายในแผนอันนี้ได้สรุปแล้ว  ในอากาศมีอณูฝนทั่วๆ ไป  เป็นความชื้นแล้วก็ต้องใส่
                       วัสดุตัวหนึ่งก็คือ เกลือ ใส่สูตร 1  เกลือมันดูดความชื้นก็เข้ามากลายเป็นเมฆ   จากเมฆนี้ก็จะทําให้

                       อันนี้ใส่ความร้อนให้มันก็ขึ้นไปสูง สูงมากในนี้ก็มี เขาเรียกว่า  Circulation  คือการหมุนเวียนของลม
                       มันขึ้นๆ ลงๆ แล้วตรงนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ หมุนเวียน เมื่อหมุนเวียนเม็ดฝนที่เกิดขึ้นในนั้นแล้วมันชนกัน

                       ก็เป็นเม็ดฝนใหญ่ นี่มันขึ้นไปแล้วก็ลงข้างๆ แล้วก็ขึ้นไป  นี่คือจราจรของฝนขึ้นลงๆ แล้วมันมากขึ้น

                       ถ้าเราเติมสูตร 1 ขึ้นลง ๆ  จนกระทั่งข้างล่างนี่สีดํา   เมื่อสีดํา ก็เอาสูตรที่เย็นใส่ คือสูตร 3 เป็นนํ้าแข็งแห้ง
                       แต่ที่ใส่นี่จะใส่ยูเรียซึ่งไม่เย็นมากนักก็จะทําให้ฝนลง  ตอนหลังเมื่อเย็นนํ้าแข็งแห้งใส่ข้างล่าง  ไม่ใช่

                       ใส่ข้างบน  สูตร 4 ทําให้เป็นอย่างนี้  แล้วก็เวลามาเป็นอย่างนี้แล้วก็ใส่นํ้าแข็งแห้ง   ฝนก็ถูกดูดลงมา

                       ฝนจะตก แล้วก็ถ้าจะทําอีกแบบอีกอย่าง ซึ่งเรือบินลํานี้ไม่บินวันนี้ ซึ่งต้องบินขึ้นไปสูง 20,000 ฟุต
                       ไอ้พวกเล็กๆ บินไม่ไหว มันช้า  นี่ลมมามันก็หมุนมาทําให้เมฆข้างล่าง Circulation  ทําให้ฝนลงมามากๆ

                       ถ้าไม่ดีก็ต้องแห่นางแมว  แห่ Cat  แล้วเขียนภาษาฝรั่งก็ว่าไปสิ  เดี๋ยวคนจะหาว่าบูโร  แห่ Cat  สมัยใหม่ดี

                       ถ้าอย่างนั้นก็ใช้กบให้เขาร้องหานาย  ซึ่งในเมืองไทย  กบร้องหานายเยอะ   เมื่อกบหานายแล้ว ฝนก็ตก
                       ฝนหลวงที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขาใช้บั้งไฟ  ไอ้นี่ไม่ใช่โคมลอย ใช้บั้งไฟขึ้นไปเพราะว่าขึ้นไป

                       ระเบิดข้างบน  มันทําให้เกิดร้อน  แล้วมันลงบ่อยๆ  ที่ภาคอีสานเวลาแห้งแล้งเขาใช้บั้งไฟขึ้นแล้วลงอันนี้

                                                              620
   682   683   684   685   686   687   688   689   690   691   692