Page 688 - เอกสารฝนหลวง
P. 688

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง


                       วิธีนี้ทํามานานแล้วต่างประเทศทํามานานเหมือนกัน  เขาใช้ยิงปื นใหญ่สมัยนานแล้ว เรายังไม่เกิด

                       สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาใช้ยิงปืน  ตอนหลังใช้บั้งไฟ ใช้ Rocket  ใช้จรวดขึ้นไป  แต่ว่าไม่ทราบว่า

                       นางแมวนี่  ที่ไหน ๆ ที่อาฟริกา ที่ยุโรปก็มีเหมือนกันแห่นางแมว  ข้อสําคัญทําให้คนมีกําลังใจ
                       เกี่ยวข้องกับบั้งไฟนี้ ได้เห็น  หรืออาจจะเคยเห็นทางทีวี   มีอินเดียนแดง เขาเต้น ๆ แล้วร้องวู๊ ๆ

                       แล้วก็เอาวัสดุอะไรโยนเข้าไปในกองไฟ  ก็คืออันนี้  ไอ้นี่ไอโอดีน   ไอ้นี่เงิน ไอ้วัสดุอันนี้ถ้ายิงเข้าไป

                       ในเมฆมันจะทําให้หมุน แล้วก็ทําให้มีจราจรของเม็ดฝนในนี้ให้ดี   แล้วก็เดี๋ยวลงมาในนี้แล้วฝนก็ลง
                       ก็หมายความว่า ไฟ  ที่เขาเอาวัสดุลงไปในไฟนี่ โดยมากเป็นเครื่องเงิน มันก็ซิลเวอร์ เอาลงไป มันก็ขึ้นไป

                       เขาก็ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์  ฉะนั้น  ไอ้พวกที่อยู่ด้านล่างนี้  ก็น่าจะดูท่าทางเป็ นของโบราณๆ
                       แต่มีเหตุผลที่จะมาเข้ากันนี้  ส่วนกบนี่ โดยมากเวลากบร้องมันมีความชื้น  กบถ้าไม่มีความชื้น กบนี่

                       เขาไม่ยอมร้อง  เขาไม่ไหว ร้องไม่ไหว  ก็หมายความว่า ถ้ามีกบร้องเขาก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม

                       ที่จะทําฝนเทียม   เดี๋ยวดู  อาจารย์เมธาจะอธิบายอะไรต่อไป ”

                              “ ที่ใส่สูตรร้อนนี่  เพื่อจะให้มันขึ้น คล้ายให้เมฆขึ้นไป  ถ้าเมฆขึ้นไป ไปชนกับอากาศที่เย็น

                       อยู่ข้างบน ข้างบนอากาศมันเย็น ทุก 1,000 ฟิต มันจะลง 1 องศา ตามหลักของฟิสิกส์  ถ้าลงมาทุก 100 เมตร
                       มันก็ขึ้น 1 องศา  ถ้าเราก่อเมฆแล้วลงมา 100 เมตร  ไอ้เมฆนี่เราเห็นได้ เอาลงมา 100 เมตร มันร้อนขึ้น

                       1 องศา  มันก็ละลายเข้าไปในอากาศ มันก็ไม่เห็น ถึงต้องใส่สูตรเย็น ให้สามารถเอามันลงมา  แต่สูตรร้อน
                       สําหรับขึ้นไปข้างบน  มันก็จะไปเจอเย็น  มันก็จับมีนํ้าหนักมาก  มันก็จะลงมาๆ  ก็ใส่ร้อนเพิ่ม

                       ให้กระดอนขึ้นไป มันหมุนๆ อย่างนี้ เม็ดฝนมันเริ่มเป็นเม็ดฝนแล้ว  มันชนๆ กัน  เม็ดฝนก็อ้วนโตขึ้น

                       ที่เขาบอกว่าให้เลี้ยงให้อ้วน  ก็เนี่ยเลี้ยงให้อ้วน  แต่ที่จริงอันนี้  โน่นตรงโน้นก็อ้วนแล้วถ้าเราอยากทํา
                       ไปทําตรงโน้นมันก็ลง แต่อันนี้เขาไม่อยากให้ฝนราษฎร์  นั่นฝนราษฎร์น๊ะ  เขาไม่ยอมใช้ฝนราษฎร์

                       เขาจะทําให้ฝนหลวง เขาจะทํารูปแบบนี้ ”

                              (อาจารย์เมธา)  ขอพระบรมราชานุญาตสั่งนักบินโปรยสารฝนหลวงสาธิต

                              “ ให้จัดการเลย เพราะว่าไม่อย่างนั้น ทิศนี้น๊ะ   เดี๋ยวจ้องดู ต้องดูมัน  เดี๋ยวคอยดู นี่ๆ แต่นี่

                       เขา 4  ลํา  เขาไปทิศเดียวกัน เขาทําเมื่อไหร่  นี่เขาหมุน อีกรอบไปหาเมฆ ที่จริงควรจะทําเมฆนี้   แต่นี่

                       ฝนราษฎร์  ไอ้นี่ก็เห็นอันนี้   อันนี้ฝนหลวง แต่ที่หลังนี่มันควรจะ….  เอ้าโปรยแล้ว   อ้อ! นี่  ไอ้นี่ไม่ใช่เคมี
                       ไม่ใช่วัสดุ  มันเป็นความชื้นที่มาเกาะกับเคมี  แล้วก็อีกหน่อยก็จะต้อง ไปอีก ต้องหมุนให้ได้  ต้องวน

                       อยู่ในเมฆ   ต้องซํ้าให้เมฆนี้หนาขึ้น เหมือนนี่  เมฆที่สร้าง   แล้วก็สูตร 4 ก็ไอ้ปุ ๋ ยยูเรีย ”

                              (อาจารย์เมธา)  จะยิ่งเย็นกว่าเกลือ พระพุทธเจ้าค่ะ

                              “ ตามปกติใช้สูตร 4 เท่านั้นเอง ไม่ใช่สูตร 3 คือ นํ้าแข็งแห้ง  ซึ่งมีความเย็นตํ่ามาก -78C

                       ก็นี่เขาเห็นมี 2 ลํา   เขาก็สวนกันให้ได้ลงมาสมทบกัน ”




                                                              621
   683   684   685   686   687   688   689   690   691   692   693