Page 67 - 06_การปองกนและปราบปรามการทจรต_Neat
P. 67

๖๐




                          ó. ¡Òô Óà¹Ô¹¤´ÕÍÒÞҡѺ¼ÙŒ´ Óçμ Óá˹‹§·Ò§¡ÒÃàÁ×ͧ
                               ในเรื่องการดําเนินคดีอาญากับผูดํารงตําแหนงทางการเมืองซึ่งรัฐธรรมนูญกําหนด

              ใหมีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาสําหรับผูดํารงตําแหนงทางการเมืองขึ้นเปนการเฉพาะนั้น คณะกรรมการ
              ป.ป.ช. มีอํานาจหนาที่ ดังนี้
                               ๓.๑  ไตสวนขอเท็จจริงและสรุปสํานวนพรอมทั้งทําความเห็นสงไปยังอัยการสูงสุด

              เพื่อฟองคดีตอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผูดํารงตําแหนงทางการเมือง กรณีผูเสียหายยื่นคํารอง
              ใหดําเนินการกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือขาราชการ

              การเมืองอื่น รํ่ารวยผิดปกติ กระทําความผิดตอตําแหนงหนาที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา
              หรือกระทําความผิดตอตําแหนงหนาที่หรือทุจริตตอหนาที่ตามกฎหมายอื่น รวมทั้งกรณีที่บุคคล
              ดังกลาวหรือบุคคลอื่นเปนตัวการ ผูใช หรือผูสนับสนุนดวยเมื่อปรากฏผลการไตสวนขอเท็จจริงแลว

              เห็นวาขอกลาวหามีมูล หากขอกลาวหาใดไตสวนขอเท็จจริงแลวไมมีมูลขอกลาวหานั้นก็เปนอันตกไป
                               ๓.๒  ไตสวนขอเท็จจริงและสรุปสํานวนพรอมทั้งทําความเห็นสงไปยังอัยการสูงสุด

              เพื่อฟองคดีตอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผูดํารงตําแหนงทางการเมืองกรณีมีผูกลาวหานายกรัฐมนตรี
              รัฐมนตรี สมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือขาราชการการเมืองอื่น วารํ่ารวยผิดปกติ
              เมื่อไตสวนขอเท็จจริงแลวพฤติการณมีมูลวารํ่ารวยผิดปกติ หากไตสวนขอเท็จจริงแลวไมมีมูลขอกลาวหา

              ก็เปนอันตกไป
                               ๓.๓  ดําเนินการฟองคดีเอาหรือแตงตั้งทนายความใหฟองคดีแทนในกรณีที่อัยการ

              สูงสุดเห็นวารายงาน เอกสาร และความเห็นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. สงใหยังไมสมบูรณพอที่จะดําเนิน
              คดีได และคณะทํางานทั้งสองฝายไมอาจหาขอยุติเกี่ยวกับการดําเนินการฟองคดีได



                          ô. ¡ÒÃμÃǨÊͺ਌Ò˹ŒÒ·Õè¢Í§ÃÑ°
                               ในเรื่องอํานาจหนาที่ที่มีตอเจาหนาที่อื่นของรัฐที่มิใชผูดํารงตําแหนงทางการเมืองนั้น

              กฎหมายไดกําหนดใหคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจหนาที่ตรวจสอบดังตอไปนี้
                               ๔.๑  ไตสวนและวินิจฉัยกรณีมีการกลาวหาวาเจาหนาที่อื่นของรัฐที่มิใชผูดํารง
              ตําแหนงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือขาราชการการเมืองอื่น

              วากระทําความผิดฐานทุจริตตอหนาที่ กระทําความผิดตอตําแหนงหนาที่ราชการ หรือกระทําความผิด
              ตอตําแหนงหนาที่ในการยุติธรรม กรณีขอกลาวหาใดไมมีมูลขอกลาวหานั้นเปนอันตกไป ถาขอกลาวหาใด

              มีมูลก็ใหสงรายงานและเอกสารที่มีอยูไปยังผูบังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย หรือผูมีอํานาจแตงตั้ง
              ถอดถอนเพื่อดําเนินการตามอํานาจหนาที่ หรือตอประธานคณะกรรมการตุลาการ ประธานกรรมการ
              ตุลาการศาลปกครอง หรือประธานคณะกรรมการอัยการ เพื่อพิจารณาดําเนินการตามกฎหมาย และ

              หากมีมูลความผิดทางอาญาดวยก็ใหสงรายงาน เอกสารและความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดําเนิน
              คดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดี โดยใหถือวาเปนสํานวนการสอบสวนตามประมวล

              กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และศาลตองประทับฟองไวพิจารณาโดยไมตองไตสวนมูลฟอง
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72