Page 69 - 06_การปองกนและปราบปรามการทจรต_Neat
P. 69

๖๒




                               ๕.๓  แจงใหผูบังคับบัญชาหรือผูมีอํานาจแตงตั้งถอดถอนผูถูกกลาวหาใหสั่งลงโทษ
              ไลออกหรือปลดออก โดยใหถือวากระทําความผิดฐานทุจริตตอหนาที่ เวนแตผูถูกกลาวหาเปนขาราชการ

              ตุลาการ ขาราชการตุลาการศาลปกครอง หรือขาราชการฝายอัยการ ใหแจงไปยังประธานคณะกรรมการ
              ตุลาการ ประธานคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง หรือประธานคณะกรรมการอัยการ

                               ๕.๔  ยื่นคํารองตอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผูดํารงตําแหนงทางการเมือง
              หรือศาล ซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีเองเพื่อขอใหศาลสั่งใหทรัพยสินตกเปนของแผนดิน

              ในกรณีที่อัยการสูงสุดเห็นวารายงาน เอกสาร และความเห็นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. สงใหยังไมสมบูรณ
              พอที่จะดําเนินคดีได และคณะทํางานทั้งสองฝายไมอาจหาขอยุติเกี่ยวกับการดําเนินการของคดีได

                               (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต
              พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๘๐)



                          ö. ¡Òá Ó˹´μ Óá˹‹§à¨ŒÒ˹ŒÒ·Õè¢Í§ÃÑ°·ÕèμŒÍ§ËŒÒÁ´ Óà¹Ô¹¡Ô¨¡ÒÃÍѹ໚¹¡ÒâѴ¡Ñ¹ÃÐËÇ‹Ò§
              »ÃÐ⪹Ê‹Ç¹ºØ¤¤ÅáÅлÃÐ⪹Ê‹Ç¹ÃÇÁ

                               คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจในการกําหนดตําแหนงที่หามกระทําการอันเปนการ
              ขัดกันระหวางประโยชนสวนบุคคลและประโยชนสวนรวมซึ่งผูดํารงตําแหนงทางการเมืองหรือเจาหนาที่อื่น

              ของรัฐตองรับผิดชอบดําเนินกิจการเกี่ยวกับเรื่องตางๆ ดังตอไปนี้
                               (๑)  เปนคูสัญญาหรือมีสวนไดเสียในสัญญาที่เกี่ยวกับหนวยงานของรัฐที่เจาหนาที่

              ของรัฐผูนั้นปฏิบัติหนาที่ในฐานะที่เปนเจาหนาที่ของรัฐซึ่งมีอํานาจกํากับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือ
              ดําเนินคดี

                               (๒)  เปนหุนสวนหรือผูถือหุนในหางหุนสวนหรือบุหรี่ที่เขาเปนคูสัญญากับหนวยงาน
              ของรัฐ ที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นปฏิบัติหนาที่ในฐานะที่เปนเจาหนาที่ของรัฐซึ่งมีอํานาจกํากับ ดูแล

              ควบคุม ตรวจสอบ หรือดําเนินคดี
                               (๓)  รับสัมปทานหรือคงถือไวซึ่งสัมปทานจากรัฐ หนวยราชการ หนวยงานของรัฐ

              รัฐวิสาหกิจหรือราชการสวนทองถิ่นอันมีลักษณะเปนการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไมวาโดยทางตรง
              หรือทางออม หรือเปนหุนสวนหรือผูถือหุนในหางหุนสวน หรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเขาเปนคูสัญญา

              ในลักษณะดังกลาว
                               (๔)  เขาไปมีสวนไดเสียในฐานะเปนกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงาน

              หรือลูกจางในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยูภายใตการกํากับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหนวยงานของรัฐ
              ที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นสังกัดอยู หรือปฏิบัติหนาที่ในฐานะเปนเจาหนาที่ของรัฐผูซึ่งโดยสภาพของ
              ผลประโยชนของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแยงตอประโยชนสวนรวม หรือประโยชนทางราชการ

              หรือกระทบตอความมีอิสระในการปฏิบัติหนาที่ของเจาหนาที่ของรัฐผูนั้น
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74