Page 97 - 06_การปองกนและปราบปรามการทจรต_Neat
P. 97

๙๐




                          ในกรณีที่พนักงานอัยการเห็นควรสั่งไมฟอง แตคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติยืนยันใหฟอง
              ใหสงเรื่องใหอัยการสูงสุดวินิจฉัย คําวินิจฉัยของอัยการสูงสุดใหเปนที่สุด

                          บทบัญญัติในมาตรานี้ใหนํามาใชบังคับในกรณีที่พนักงานอัยการยื่นอุทธรณ ฎีกา
              หรือถอนฟอง ถอนอุทธรณ ถอนฎีกา โดยอนุโลม

                          ÁÒμÃÒ ôö  ในกรณีที่พนักงานอัยการมีคําสั่งฟองและจําเปนตองนําตัวผูถูกกลาวหา
              ไปศาลใหแจงใหผูถูกกลาวหามาพบพนักงานอัยการตามเวลาที่กําหนดและในกรณีมีความจําเปนตอง

              จับตัวผูถูกกลาวหา ใหพนักงานอัยการแจงพนักงานฝายปกครองหรือตํารวจที่มีเขตอํานาจเหนือทองที่
              ที่ผูถูกกลาวหามีภูมิลําเนาหรือที่อยูเปนผูดําเนินการ และเพื่อการนี้ใหผูบังคับบัญชา หรือผูมีอํานาจ

              แตงตั้งถอดถอนเจาหนาที่ของรัฐผูถูกกลาวหา พนักงานฝายปกครองหรือตํารวจดังกลาว มีอํานาจ
              รองขอตอศาลที่มีเขตอํานาจเหนือทองที่นั้นใหออกหมายจับได ทั้งนี้ ใหนําบทบัญญัติเรื่องการจับ

              การขังและการปลอยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใชบังคับ
                          ในกรณีที่มีการจับกุม ใหพนักงานฝายปกครองหรือตํารวจสงตัวผูถูกจับพรอมทั้งบันทึก
              การจับไปยังศาลแลวแจงใหพนักงานอัยการทราบภายในสี่สิบแปดชั่วโมง

                          ÁÒμÃÒ ô÷  [ñö]   กรณีที่ผูถูกกลาวหาเปนบุคคลที่อยูในอํานาจศาลทหาร ในการดําเนิน
              คดีอาญาตามมาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๖ ใหเปนอํานาจหนาที่ของอัยการทหาร ในกรณีเชนนั้นอํานาจ

              ของอัยการสูงสุดตามมาตรา ๔๕ วรรคสาม ใหเปนอํานาจของเจากรมพระธรรมนูญ
                          ÁÒμÃÒ ôø  ในการไตสวนขอเท็จจริง ถาคณะกรรมการ ป.ป.ท. เห็นควรตรวจสอบทรัพยสิน

              และหนี้สินของเจาหนาที่ของรัฐผูถูกกลาวหา และเปนกรณีที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นตองยื่นบัญชีแสดง
              รายการทรัพยสินและหนี้สินไวตอคณะกรรมการ ป.ป.ช. แลว ใหคณะกรรมการ ป.ป.ท. ขอความรวมมือ

              จากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ใหสงบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สินที่ยื่นไวมาใหตรวจสอบได
              แตถาเปนกรณีที่เจาหนาที่ของรัฐผูถูกกลาวหามิไดเปนผูที่ตองยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและ

              หนี้สินไวตอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ใหคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีอํานาจสั่งใหเจาหนาที่ของรัฐผูนั้น
              ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สินของตน คูสมรส และบุตรที่ยังไมบรรลุนิติภาวะตอ

              คณะกรรมการ ป.ป.ท. ตามรายการและภายในเวลาที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. กําหนดได
                          ในการไตสวนตามวรรคหนึ่งหรือในกรณีอื่นใดที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. มีเหตุอันควร

              สงสัยวาเจาหนาที่ของรัฐผูถูกกลาวหารํ่ารวยผิดปกติหรือมีทรัพยสินเพิ่มขึ้นผิดปกติใหสงเรื่องทั้งหมด
              พรอมทั้งสํานวนการไตสวนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวของใหคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดําเนินการตาม

              อํานาจหนาที่ตอไป ในกรณีเชนนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะถือเอาสํานวนการไตสวนขอเท็จจริงของ
              คณะกรรมการ ป.ป.ท. เปนสํานวนการไตสวนขอเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยจะไตสวน
              ขอเท็จจริงเพิ่มเติมดวยหรือไมก็ได

                          ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไตสวนแลวเห็นวาเจาหนาที่ของรัฐผูนั้นมิไดรํ่ารวย

              ผิดปกติหรือมิไดมีทรัพยสินเพิ่มขึ้นผิดปกติ แตมีกรณีตองดําเนินการเกี่ยวกับการทุจริตในภาครัฐ
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102