Page 342 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 342

๓๒๙




                                 (ข)  กรณีตามมาตรา ๒๘๑ (๒)
                                     (๑)  ตองเปนการกระทําความผิดตามมาตรา ๒๗๘ วรรคหนึ่ง

                                     (๒)  มิไดเกิดตอหนาธารกํานัล
                                     (๓)  ไมเปนเหตุใหผูถูกกระทํารับอันตรายสาหัสหรือถึงแกความตาย และ
                                     (๔)  มิไดเปนการกระทําแกบุคคลดังระบุไวในมาตรา ๒๘๕ และมาตรา ๒๘๕/๒

                             ๒.  คําวา “μ‹Í˹ŒÒ¸ÒÃกํา¹ÑÅ” หมายถึง กระทําในลักษณะที่เปดเผยใหบุคคลอื่นสามารถ
                 เห็นการกระทําของตนได (ฎ.๑๑๗๓/๒๕๐๘ ประชุมใหญ) และบุคคลอื่นนั้นจะตองมิใชผูที่รวมกระทํา

                 ความผิดดวยกัน
                                 μÑÇÍ‹ҧ  กรณีมิใชการกระทําตอหนาธารกํานัล

                                 คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè ๑๑๗๓/๒๕๐๘ (ประชุมใหญ) จําเลยขมขืนกระทําชําเราผูเสียหาย
                 ตอหนาเด็กหญิงคนหนึ่ง ã¹ËŒÍ§¹Í¹Á×´ เพียงแตเหตุเกิดตอหนาเด็กหญิงเทานั้น และโจทกมิไดยืนยัน

                 โตแยงวาจําเลยไดกระทําโดยประการที่ใหเด็กหญิงไดเห็นการกระทําของจําเลย หรือวาจําเลยไดกระทํา
                 ในลักษณะที่เปดเผยใหบุคคลอื่นสามารถเห็นการกระทําของจําเลยได ดังนี้ พฤติการณแหงคดีจึงถือ
                 ไมไดวาจําเลยไดกระทําผิดตอหนาธารกํานัล หากผูเสียหายไดแถลงตอศาลไมติดใจเอาความจากจําเลย

                 ขอถอนคํารองทุกข ศาลก็ตองสั่งจําหนายคดีออกจากสารบบความ
                                 μÑÇÍ‹ҧ  กรณีการกระทําตอหนาธารกํานัล

                                 คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè ๔๖๙๓/๒๕๕๓  จําเลยจับหนาอกผูเสียหายซึ่งเปนหญิงในราน
                 อาหาร ซึ่งมีลูกคามานั่งรับประทานอาหารและมีพนักงานรานอาหารนั้นเห็น ดังนี้ เปนการกระทํา

                 อนาจารแกผูเสียหายตอหนาธารกํานัลแลว


                 ¤ÇÒÁ¼Ô´à¡ÕèÂǡѺ¡ÒäŒÒ»ÃÐàdzÕ

                                         ññ
                             ÁÒμÃÒ òøö   ผูใดกระทําดวยประการใดๆ ดังตอไปนี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินยี่สิบป
                 และปรับไมเกินสี่แสนบาท หรือจําคุกตลอดชีวิต

                             (๑)  ชวยเหลือ ใหความสะดวก หรือคุมครองการคาประเวณีของผูอื่น
                             (๒) รับประโยชนไมวารูปแบบใดจากการคาประเวณีของผูอื่นหรือจากผูซึ่งคาประเวณี

                             (๓) บังคับ ขูเข็ญ หลอกลวง หรือใชอํานาจครอบงําผูอื่น หรือรับผูอื่นเขาทํางานเพื่อการ
                 คาประเวณี
                             (๔) จัดใหมีการคาประเวณีระหวางผูซึ่งคาประเวณีกับผูใชบริการ

                             (๕) ปกปดหรืออําพรางแหลงที่มาของรายไดหรือทรัพยสินซึ่งไดมาจากการคาประเวณี
                             (๖)  อยูรวมกับผูซึ่งคาประเวณีหรือสมาคมกับผูซึ่งคาประเวณีคนเดียวหรือหลายคน

                 เปนอาจิณ และไมสามารถแสดงที่มาของรายไดในการดํารงชีพของตน

                     ๑๑  พ.ร.บ.แกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๓๒/
                 ๒๗ พ.ค. ๖๒
   337   338   339   340   341   342   343   344   345   346   347