Page 382 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 382

๓๖๙




                             “ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญเห็นวา ความผิดฐานทํารายรางกายผูอื่นจนเปนเหตุใหได
                 รับอันตรายสาหัสตาม ป.อ.มาตรา ๒๙๗ เปนเหตุที่ทําใหผูกระทําความผิดฐานทํารายรางกายตาม

                 มาตรา ๒๙๕ ตองรับโทษหนักขึ้นเพราะผลที่เกิดจากการกระทํา โดยที่ผูกระทําไมจําตองมีเจตนา
                 ตอผลที่ทําใหตองรับโทษหนักขึ้น ดังนั้นในกรณีที่เปนตัวการรวมกันทํารายรางกายผูอื่น แมผูที่เปน
                 ตัวการรวมกระทําผิดทุกคน ตองรับผิดในผลที่เกิดขึ้นนั้นดวย เมื่อขอเท็จจริงไดความวาจําเลยที่ ๒

                 และที่ ๓ ไดรวมกับจําเลยที่ ๑ ทํารายรางกายผูเสียหาย แมจําเลยที่ ๑ แตเพียงผูเดียว เปนผูที่ใชมีดตัด
                 กระดาษกรีดหนาผูเสียหาย และจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ ไมมีเจตนาใหผูเสียหายไดรับอันตรายสาหัสคงมีเจตนา

                 รวมทํารายรางกายผูเสียหายเทานั้น จําเลยที่ ๒ ที่ ๓ ก็ตองรับผิดในผลที่เกิดขึ้นจากการกระทําของจําเลย
                 ที่ ๑ ดวย ถือไดวาจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ เปนตัวการรวมกันทํารายผูเสียหายจนเปนเหตุใหไดรับอันตรายสาหัส
                 ตาม ป.อ. มาตรา ๒๙๗(๔), ๘๓ แลว

                             ®Õ¡Ò·Õè öóð/òõðù  (ประชุมใหญ) คําวา อวัยวะอื่นใด ตาม ป.อ.มาตรา ๒๙๗(๓)
                 หมายถึงอวัยวะสวนสําคัญ เชน แขน ขา มือ เทา นิ้ว ดังระบุไวในตอนตน

                             ฟนทั้งหมดในปากรวมกันก็เปนอวัยวะสวนสําคัญ ถาฟนหักไปหลายซี่เปนเหตุใหสวน
                 ที่เหลือใชการไมไดตามสภาพของฟน เชน เคี้ยวอาหารไมไดไปแถบหนึ่ง ก็ถือไดวาเปนการเสียอวัยวะ
                 สวนสําคัญเปนอันตรายสาหัส เพียงแตไดความวาฟนแทบนดานหนาหักไป ๓ ซีก ซึ่งจะถือวาเปนการ

                 เสียอวัยวะสําคัญยังมิได เวนแตโจทกจะนําสืบใหเห็นวา เมื่อถูกทํารายแลว ผูเสียหายใชฟนที่เหลืออยู
                 เคี้ยวอาหารไมได ตามนัยที่กลาวขางตน

                             แตแมฟนจะหักไมหมดปาก ตองดูวาฟนที่เหลืออยูยังใชงานไดหรือไม ดูฎีกาที่  ๗๔๙/๒๕๑๕
                             ®Õ¡Ò·Õè ÷ôù/òõñõ  ผูเสียหายถูกทําราย ทําใหฟนลางดานหนาหักสี่ซี่ แตฟนที่เหลือ
                 ยังใชเคี้ยวอาหารได ดังนี้ ยังไมถึงขนาดที่จะถือวาผูเสียหายไดรับอันตรายสาหัส ตาม ป.อ.

                 มาตรา ๒๙๗(๓)
                             ®Õ¡Ò·Õè ö÷÷/òõñð (ประชุมใหญ) การกระทําอันจะเปนผิดฐานทํารายผูอื่นจนเปนเหตุ

                 ใหผูถูกทํารายไดรับอันตรายสาหัสถึงแทงลูก ตาม ป.อ.มาตรา ๒๙๗(๕) นั้น จะตองเปนกรณีที่กระทําให
                 ลูกในครรภของผูถูกทํารายคลอดออกมาในลักษณะที่ลูกนั้นไมมีชีวิต สวนการคลอดกอนกําหนดเวลา
                 ในลักษณะที่เด็กยังมีชีวิตอยูตอมาอีก ๘ วัน แลวจึงตาย ดังนี้ ไมเปนการทําใหไดรับอันตรายสาหัส

                 ถึงแทงลูก ตามมาตรา ๒๙๗(๕)
                             ®Õ¡Ò·Õè ÷õô/òõóò ใบหูเปนสวนหนึ่งของใบหนาที่ประกอบรูปหนาใหงาม เมื่อใบหู

                 ขาดไปถึงหนึ่งในสาม ยอมจะทําใหรูปหนาเสียความงามอันเปนการเสียโฉมอยางติดตัว แมผูเสียหาย
                 จะรักษาตัวไมเกิน ๑๔ วัน ผูเสียหายก็ไดรับอันตรายสาหัสแลว

                             ô. ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ทําÃŒÒÂËҧ¡ÒÂ໚¹ÍѹμÃÒÂÊÒËÑÊâ´ÂàËμØ©¡Ãè
                             ÁÒμÃÒ òùø  “ผูใดกระทําความผิดตามมาตรา ๒๙๗ ถาความผิดนั้นมีลักษณะ
                 ประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไวใน มาตรา ๒๘๙ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสองปถึงสิบป”

                 และปรับตั้งแตสี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
   377   378   379   380   381   382   383   384   385   386   387