Page 398 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 398
๓๘๕
໚¹¡ÒáÃÐทําâ´Â·ÃÁÒ¹¨¹à»š¹àËμØãËŒ¼ÙŒ¶Ù¡¡ÃÐทํา¹Ñé¹ÃѺÍѹμÃÒÂá¡‹¡ÒÂËÃ×ͨÔμã¨
หมายความวา เปนเหตุใหผูกระทํารับโทษหนักขึ้น เพราะพฤติการณที่กระทําเปนการทรมานและมี
เจตนากระทําการอันเปนการทรมานดวย สวนผลของการกระทําที่ผูถูกกระทําไดรับคืออันตรายแกกาย
หรือจิตใจ ซึ่งตองเปนผลที่ตามธรรมดายอมเกิดขึ้นไดตามมาตรา ๖๓
¡ÃÐทําâ´Â·ÃÁÒ¹ หมายความวา กระทําใหไดรับความลําบาก ซึ่งตองวินิจฉัยตาม
ความรูสึกของวิญูชนวาเปนการทรมานหรือไม
àËμØ·ÕèทําãËŒÃѺâ·É˹ѡ¢Öé¹ (ÁÒμÃÒ óñó ÇÃä·ŒÒÂ)
มาตรา ๓๑๓ วรรคทาย บัญญัติขึ้นเพื่อลงโทษผูกระทําใหรับโทษหนักขึ้น เมื่อเปนเหตุให
ผูถูกเอาตัวไป ผูถูกหนวงเหนี่ยวหรือผูถูกกักขังนั้นถึงแกความตาย
®Õ¡Ò·Õè õòõõ/òõóô การที่จําเลยจับโจทกรวมไปหนวงเหนี่ยวกักขังแลวบังคับใหเขียน
จดหมายถึงมารดาโจทกรวม ใหโอนที่ดินจํานองเพื่อชําระหนี้แกแมยายจําเลยหรือจําเลยนั้น จําเลยมี
เจตนาเพียงเพื่อบังคับใหมารดาโจทกรวมชําระหนี้ โดยจําเลยเชื่อวากระทําได ดังนั้น
ประโยชนที่จําเลยเรียกรองเอาจึงมิใชคาไถตาม ป.อ.มาตรา ๑(๑๓) การกระทําของจําเลย
ไมเปนความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๓๑๓ วรรคแรก
®Õ¡Ò·Õè ÷÷ôò/òõôó การที่จําเลยทั้งสองกับพวกรวมกันหนวงเหนี่ยวกักขังตัว
ผูเสียหายก็เพื่อใหผูเสียหายชําระหนี้ใหแกจําเลยที่ ๑ โดยจําเลยทั้งสองเขาใจวาสามารถกระทําได
ดังนั้นประโยชนที่จําเลยที่ ๑ เรียกรองใหผูเสียหายชําระหนี้ จึงไมใชคาไถตามความหมายในบทนิยาม
คําวา “คาไถ” ตาม ป.อ.มาตรา ๑ (๑๓) การกระทําของจําเลยทั้งสองจึงไมมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา
๓๑๓ วรรคสอง
®Õ¡Ò·Õè óòðô/òõòò จําเลยที่ ๑ ที่ ๒ กับพวกอีก ๕ คน รวมกันจับเอาตัวผูตายไปเพื่อให
ไดมาซึ่งคาไถ ระหวางผูตายถูกพวกของจําเลยควบคุมตัวไวเพื่อใหไดมาซึ่งคาไถนั้น พวกของจําเลย
ที่ ๑ ที่ ๒ ไดฆาผูตาย เพราะเหตุที่ผูตายไมยอมเขียนจดหมายเพื่อใหบุตรผูตายนําเงินมาไถตัว
แมจําเลยที่ ๑ ที่ ๒ มิไดรูเห็นในการฆาดวยก็ตองถือวาเนื่องดวยการกระทําผิดของจําเลยที่ ๑ ที่ ๒ นั้นเอง
เปนเหตุใหผูตายถึงแกความตาย จําเลยที่ ๑ ที่ ๒ ตองรับโทษหนักขึ้นตาม ป.อ.มาตรา ๓๑๓ วรรคทาย
¾ÃÒ¡¼ÙŒàÂÒÇ
ÁÒμÃÒ óñ÷ ผูใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไมเกินสิบหาปไปเสีย
จากบิดามารดา ผูปกครอง หรือผูดูแล ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสามปถึงสิบหาป และปรับตั้งแต
หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท
ผูใดโดยทุจริต ซื้อ จําหนาย หรือรับตัวเด็กซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ตองระวางโทษ
เชนเดียวกับผูพรากนั้น
ถาความผิดตามมาตรานี้ไดกระทําเพื่อหากําไร หรือเพื่อการอนาจาร ผูกระทําตองระวาง
โทษจําคุกตั้งแตหาปถึงยี่สิบป และปรับตั้งแตหนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท