Page 419 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 419

๔๐๖




                          ¡.  ¤ÇÒÁ¤Ãͺ¤Ãͧ นี้มีความหมายตรงกับคําวา “สิทธิครอบครอง” ตาม ป.พ.พ.
              มาตรา ๑๓๖๗ ซึ่งบัญญัติวา บุคคลใดยึดถือทรัพยสินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ทานวาบุคคลนั้นได

              ซึ่งสิทธิครอบครอง จะเห็นไดวาการที่บุคคลใดจะไดมาซึ่งสิทธิครอบครองในทรัพยใดนั้นจะตอง
              ประกอบดวยทั้งการกระทํา และเจตนารวม ๒ ประการดวยกัน กลาวคือ มีการกระทําโดย
                          การ “ยึดถือ” ทรัพยนั้นไว และมีเจตนายึดถือทรัพยนั้นไว “เพื่อตน”

                          การเอาไปจากครอบครองนั้น นอกจากผูเอาไปจะไมมีสิทธิครอบครองในทรัพยนั้นแลว
              จะตองปรากฏดวยวา ทรัพยนั้นอยูในความครอบครองของผูอื่น ถาทรัพยนั้นไมอยูในความครอบครอง

              ของบุคคลใดเลย เชน เปนทรัพยสินหาย หรือเปนทรัพยสินไมมีเจาของผูเอาไปก็ไมมีความผิด
              ฐานลักทรัพย
                          ทรัพยสินหาย หมายถึง ทรัพยสินนั้นหลุดไปจากความยึดถือของเจาของหรือผูครอบครอง

              โดยมิไดตั้งใจ และเจาของหรือผูครอบครองก็ไมรูหายไปที่ใด ทั้งมิไดสนใจจะติดตามเอาคืน
                          ทรัพยไมมีเจาของ หมายถึง ทรัพยที่เจาของเลิกการครอบครองดวยเจตนาสละกรรมสิทธิ์

              เชน ทรัพยที่เจาของทิ้งแลว สัตวที่ยังอยูโดยอิสระ เปนตน บุคคลที่เขายึดถือเอาทรัพยซึ่งไมมีเจาของ
              ยอมไดกรรมสิทธิ์ในทรัพยนั้น
                          องคประกอบของความผิดในสวนการกระทํา “เอาไป” นี้ นอกจากจะเปนการเอาไปจาก

              ความครอบครองของผูอื่นแลว ทรัพยที่ถูกเอาไปนั้นจะตองเปลี่ยนแปลงที่อยูหรือเคลื่อนที่ไปจากที่อยู
              กอนถูกเอาไปอีกดวย ถาทรัพยนั้นไมไดเปลี่ยนแปลงที่อยูหรือไมไดเคลื่อนที่ไปแตอยางใด ก็ไมถือวา

              มีการเอาไปตามความในมาตรา ๓๓๔ ซึ่งผูกระทําความผิดอาจรับผิดเพียงฐานพยายามลักทรัพยเทานั้น
                          แตถาสามารถเขายึดถือหรือมีอํานาจเหนือทรัพยนั้นไดอยางแทจริงแลว แมจะไดนํา
              เคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงที่อยูไปแตเพียงเล็กนอยก็ตาม ก็ถือวาเปนการเอาไปสําเร็จแลว ผูเอาไปจึง

              อาจมีความผิดฐานลักทรัพยสําเร็จ มิใชเพียงแตความผิดฐานพยายามลักทรัพยเทานั้น
                          ·ÃѾ¢Í§¼ÙŒÍ×è¹ËÃ×Í·Õè¼ÙŒÍ×è¹à»š¹à¨ŒÒ¢Í§ÃÇÁÍÂÙ‹´ŒÇÂ

                          ·ÃѾ ตามประมวลกฎหมายอาญามิไดนิยามคําวา “·ÃѾ” ไว ฉะนั้นความหมาย
              คําวาทรัพย จึงนาจะอนุโลมยึดถือเอาความหมายตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา
              ๑๓๗ ซึ่งบัญญัติวา “ทรัพย หมายความวา วัตถุมีรูปราง” และจากประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย

              มาตรา ๑๓๘ ซึ่งบัญญัติวา “ทรัพยสิน หมายความรวมทั้งทรัพย และวัตถุไมมีรูปรางซึ่งอาจมีราคา
              และอาจถือเอาได”

                          มีปญหาซึ่งถกเถียงกันมาตั้งแตกอนมี ป.อ. แลววา พลังงานตางๆ เชน กระแสไฟฟา
              ไอนํ้าจากเครื่องจักร เปนทรัพยหรือไม โดยที่พลังงานมิใชของแข็ง มิใชของเหลว และมิใชกาซ
              นักกฎหมายสวนใหญจึงมีความเห็นวา พลังงานมิใชทรัพยผูเอาไปจึงไมควรมีความผิดฐานลักทรัพย

              แมตอมาจะมีคําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๗๗/๒๕๐๑ ตัดสินวาผูลักกระแสไฟฟามีความผิดฐานลักทรัพย
              นักกฎหมายไมนอยก็ยังคัดคานอยู และมีความเห็นวาจะตองมีกฎหมายบัญญัติไวเปนการเฉพาะใหการ

              ลักกระแสไฟฟามีความผิดตามกฎหมาย มิฉะนั้นก็ไมควรมีความผิด
   414   415   416   417   418   419   420   421   422   423   424