Page 423 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 423

๔๑๐




              เปลี่ยนสภาพเปนสังหาริมทรัพยจึงถือไมไดวาเปนทรัพยสินที่เชา ดินที่ถูกขุดมาจึงคงอยูในความ
              ครอบครองของผูใหเชา ในคดีเรื่องนี้ศาลฎีกาถือหลักที่วาใครเปนคนครอบครอง แตโดยวินิจฉัยวา

              ที่ผูใหเชาใหเชาทรัพยสินคือที่ดินนี้ในสภาพที่เปนอสังหาริมทรัพย แตเมื่อที่ดินถูกขุดขึ้นมาแลวก็
              กลายเปนสังหาริมทรัพย จึงถือไมไดวาเปนทรัพยสินที่เชา เมื่อเปนสังหาริมทรัพยไมใชทรัพยสินที่เชา
              ก็ถือวาอันนี้ ยังอยูในความครอบครองของเจาของที่ดิน เมื่อเอาไปก็เปนลักทรัพย ดังนั้น ถาหากเปน

              เรื่องเชาบาน เชน เชาตึกหลังหนึ่ง เปนการเชาอสังหาริมทรัพย ถาคนเชาถอดมุงลวดในบานหลังนั้นไป
              หรือกระจกบานหนาตางไป จะถือวาเปนลักทรัพยหรือยักยอกทรัพย มันก็ตองเขามาสูปญหาที่วาใคร

              ครอบครองทรัพยนั้น เมื่อพิจารณาดูคําพิพากษาฎีกานี้แลวจะเห็นไดวาการครอบครองนั้นยังอยูที่
              เจาทรัพย เพราะเมื่อแยกออกมาจากตัวอสังหาริมทรัพยแลวก็เปนสังหาริมทรัพย จึงเปนความผิดฐาน

              ลักทรัพย
                          ®Õ¡Ò·Õè õ÷ô/òõò÷ จําเลยขึ้นไปบนตนลําไยหักลําไยทั้งกิ่งจากตนใสในเขง เจาพนักงาน
              จับจําเลยขณะจําเลยอยูบนตนและกําลังหักกิ่งลําไยใสเขงอยู (ถามวาอยางนี้เปนพยายามหรือเปน

              ความผิดสําเร็จ มันมีเขงมันหักกิ่งลําไยใสเขง เพราะฉะนั้นการหักกิ่งลําไยใสเขง ก็เปนการแยกหรือ
              เคลื่อนที่ผลลําไยออกจากตน อันนี้เปนการแยกออกมา และเขายึดถือเอาผลลําไยไวแลวคือใสเขงไว

              แลว อยางนี้ก็เปนการเอาไปซึ่งทรัพยของผูเสียหาย ครบองคประกอบ) เปนความผิดในฐานลักทรัพย
              สําเร็จแลวไมใชเปนความผิดฐานพยายาม
                          ®Õ¡Ò·Õè öññ/òõóð  จําเลยขับรถเขาไปเติมนํ้ามันกับเด็กปมของผูเสียหาย เมื่อเติม

              เกือบจะเต็มถัง จําเลยพูดวาไมมีเงินเดี๋ยวจะเอามาใหแลวจําเลยไดขับรถออกไปทันที พฤติการณของ
              จําเลยที่ขณะเติมนํ้ามันไมไดดับเครื่องยนตรถ แลวฝาปดถังนํ้ามันก็ไมมีใชผาอุดไวแทน แสดงวาเปนการ

              วางแผนการไวเพื่อจะไมชําระเงินคานํ้ามันเมื่อไดนํ้ามันมาแลวโดยจะรีบหนีไป อันเปนอุบายในการที่
              จะทําใหการลักทรัพยสําเร็จ แลวจําเลยมีเจตนาทุจริตมาตั้งแตตนที่จะลักเอานํ้ามันผูเสียหาย จึงเปน

              ความผิดฐานลักทรัพยโดยใชกลอุบาย
                          ®Õ¡Ò·Õè òõôù/òõóò  จําเลยเขาไปในบานผูเสียหายเพื่อทวงคาแรงที่ผูเสียหายคาง
              บุตรชายของจําเลย เปนการเขาไปโดยมีเหตุผลสมควรโดยสุจริต แมจําเลยจะไดถือมีดไปดวย แตก็เปน

              เพียงมีดเหลียนซึ่งโดยทั่วๆ ไปใชสําหรับหวดหญา และไมปรากฏวาจําเลยตั้งใจจะไปทํารายผูเสียหาย
              ตั้งแตแรก จึงไมอาจถือไดวาจําเลยมีเจตนาบุกรุก

                          จําเลยทวงคาแรงจากผูเสียหายไมได จึงโกรธและใชมีดฟนพยายามทํารายผูเสียหาย
              แลวเอาเครื่องสูบนํ้าของผูเสียหายไป มิใชเปนการฟนผูเสียหายเพื่อความสะดวกหรือเพื่อเอาเครื่องสูบนํ้า
              ของผูเสียหายไปเกิดขึ้นหลังจากการทํารายรางกายของตนไปแลว จําเลยจึงไมมีความผิดฐานชิงทรัพย

                          แมจําเลยเอาเครื่องสูบนํ้าของผูเสียหายไปเพื่อยึดเอาไวใหผูเสียหายไปจายคาแรง
              บุตรชายจําเลยแลวจําเลยจะคืนให ก็ถือไดวาจําเลยเอาทรัพยของผูเสียหายไปโดยมีเจตนาทุจริต

              อันเปนความผิดฐานลักทรัพย เพราะจําเลยไมมีอํานาจเอาทรัพยของผูเสียหายไปโดยพลการได
   418   419   420   421   422   423   424   425   426   427   428