Page 425 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 425

๔๑๒




                          ÅÑ¡¡ÃÐáÊä¿¿‡ÒáÅÐÊÑÞÞÒ³â·ÃÈѾ·
                          การลักกระแสไฟฟา ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญในป ๒๕๐๑ วาเปนความผิด

              ฐานลักทรัพย (ฎีกาที่ ๘๗๗/๒๕๐๑) ตอมาในป ๒๕๔๒ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญวินิจฉัยวา
              การที่จําเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพทจากตูโทรศัพทสาธารณะไปใชเพื่อประโยชนของจําเลยก็เปน
              ความผิดฐานลักทรัพยเชนกัน เพราะสัญญาณโทรศัพทเปนกระแสไฟฟาที่แปลงมาจากเสียงพูดเคลื่อนที่

              ไปตามสายลวดตัวนําจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จึงเปนความผิดฐานลักทรัพย
                          ®Õ¡Ò·Õè ñøøð/òõôò (ประชุมใหญ) สัญญาณโทรศัพทเปนกระแสไฟฟาที่แปลงมาจาก

              เสียงพูดเคลื่อนที่ไปตามสายลวดตัวนําจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จําเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพทจาก
              ตูโทรศัพทสาธารณะซึ่งอยูในความครอบครองขององคการโทรศัพทแหงประเทศไทยไปใชเพื่อประโยชน
              ของจําเลยโดยทุจริต จึงเปนความผิดฐานลักทรัพยเชนเดียวกับการลักกระแสไฟฟา

                          ®Õ¡Ò·Õè øñ÷÷/òõôó การÅÑ¡àÍÒ¤Å×è¹áÁ‹àËÅç¡ä¿¿‡Òอันเปนทรัพยของผูเสียหาย
              ที่ผลิตขึ้นเพื่อใชกับÇÔ·ÂØ¤Á¹Ò¤Á โดยจําเลยกับพวกนําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ที่ปรับสัญญาณและ

              รหัสเลขหมายของโทรศัพทผูอื่นมาใชติดตอสื่อสารโทรออกหรือรับการเรียกเขาผานสถานีและชุมสาย
              โทรศัพทระบบเซลลูลาร ๔๗๐ ของผูเสียหายนั้น เปนเพียงการรับสงวิทยุคมนาคมหรือกลาวอีกนัยหนึ่ง
              วาเปนการዧ㪌¤Å×è¹ÊÑÞÞÒ³â·ÃÈѾ·â´ÂäÁ‹ÁÕÊÔ·¸Ô นั่นเอง จึงÁÔ㪋เปนการเอาไปซึ่งทรัพยสินของ

              ผูอื่นโดยทุจริต การกระทําของจําเลยจึงไมเปนความผิดตาม ม.๓๓๕ (๑)(๗) ว.๒ แตจําเลยคงมีความผิด
              ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคมฯ (ฐานรวมกันรบกวนขัดขวางตอการวิทยุคมนาคม)

                          ¢ŒÍÊѧà¡μ เรื่องนี้เปนลักสัญญาณโทรศัพทใชสาย (พื้นฐาน) ถาเปนโทรศัพทมือถือ
              (โทรศัพทเคลื่อนที่) มีคําพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๕๔/๒๕๓๙ วินิจฉัยวาการที่จําเลยปรับจูนและกอบป
              คลื่นสัญญาณโทรศัพทเคลื่อนที่และรับสงวิทยุคมนาคมโดยไมไดรับอนุญาต เปนเพียงการแยงใช

              คลื่นสัญญาณโทรศัพท ไมเปนความผิดฐานลักทรัพย คําพิพากษาฎีกานี้ไมขัดกับคําพิพากษาฎีกา
              ที่ ๑๘๘๐/๒๕๔๒ ซึ่งในคําพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๘๐/๒๕๔๒ ก็ไดวินิจฉัยไวดวยวาไมขัดกับคําพิพากษา

              ฎีกาที่ ๕๓๕๔/๒๕๓๙ เพราะขอเท็จจริงไมตรงกัน เนื่องจากในคําพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๕๔/๒๕๓๙
              เปนการปรับจูนและกอบปคลื่นสัญญาณมือถือและใชรับสงวิทยุคมนาคม โดยอาศัยคลื่นสัญญาณ
              โทรศัพทของผูเสียหายที่ลองลอยอยูในอากาศ กรณีจึงแตกตางกับขอเท็จจริงในคําพิพากษาฎีกา

              ที่ ๑๘๘๐/๒๕๔๒ นี้ ซึ่งเปนเรื่องการลักสัญญาณโทรศัพทที่อยูภายในสายโทรศัพท
                          กลาวโดยสรุปวาที่แตกตางกัน เพราะตามคําพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๕๔/๒๕๓๙ เปน

              คลื่นสัญญาณโทรศัพทมือถือที่ลองลอยอยูในอากาศ สวนคําพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๘๐/๒๕๔๒ เปน
              สัญญาณโทรศัพทที่อยูภายในสายโทรศัพท เมื่อขอเท็จจริงแตกตางกันจึงไมถือวาคําวินิจฉัยขัดแยงกัน
                          ®Õ¡Ò·Õè õóõô/òõóù จําเลยนําโทรศัพทมือถือมาปรับจูนและกอบปคลื่นสัญญาณ

              โทรศัพทของผูเสียหายแลวใชรับสงวิทยุคมนาคมโดยไมไดรับอนุญาต เปนเพียงการแยงใชคลื่น
              สัญญาณโทรศัพทของผูเสียหายโดยไมมีสิทธิ มิใชเปนการเอาทรัพยของผูอื่นไปโดยทุจริตไมเปน

              ความผิดฐานลักทรัพย แมจําเลยใหการรับสารภาพก็ตองพิพากษายกฟอง
   420   421   422   423   424   425   426   427   428   429   430