Page 133 - EBOOK-TRON_2018
P. 133
ความสำาคัญและความเป็นมา จุดเด่น
ปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การบริหารจัดการน้ำาตามนโยบายการพัฒนาประเทศไทย 4.0 หรือยุค RID4.0 ผลผลิตของโครงการวิจัยนี้ได้พัฒนาเป็นโปรแกรมช่วย
Water Intelligence System ซึ่งเป็นการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำาและพื้นที่เกษตรกรรมภายใต้น้ำาต้นทุนที่มี โดย ตัดสินใจการบริหารจัดการน้ำาแบบบูรณาการและทันต่อ
มุ่งเน้นให้เกษตรกรหรือ smart farmer สามารถเข้าถึงข้อมูลสถานการณ์น้ำา ทั้งปริมาณน้ำาต้นทุน ความเหมาะสม เหตุการณ์ หรือ โปรแกรม “NARK4.0” ที่บูรณา ผลผลิตของโครงการบริหาร
ของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจวางแผนการทำาเกษตรกรรมเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด การแบบจำาลองย่อยแบบองค์รวม ตั้งแต่การคาดการณ์ จัดการน้ำาอย่างเหมาะสม
เพื่อปฏิรูปภาคการใช้น้ำา
จากปัญหาความไม่สมดุลระหว่างปริมาณน้ำาต้นทุนที่มีความไม่แน่นอนอันเนื่องจากสภาพอากาศที่มีการ ปริมาณฝน ปริมาณน้ำาท่า ปริมาณน้ำาไหลเข้าอ่าง การไหล เกษตรกรรมของประเทศไทย
เปลี่ยนแปลง และความต้องการน้ำาที่เพิ่มขึ้นจากการรูปแบบวิถีชีวิตเกษตรกรรมดั้งเดิมของเกษตรกรที่ไม่ทราบ ในลำาน้ำา และการจัดสรรน้ำาสู่พื้นที่เกษตรกรรม เพื่อใช้งาน
ปริมาณน้ำาต้นทุนที่แน่ชัด ทำาให้เกษตรกรขาดข้อมูลที่ชัดเจนในการวางแผนรับมือและปรับตัวกับสถานการณ์ภัย ในการประเมินสถานการณ์และการวางแผนบริหาร
น้ำาท่วมและภัยแล้ง การประเมินความต้องการและปริมาณการผลิตของสินค้าเกษตรเป็นไปได้ยาก ผลผลิตเกิด จัดการน้ำาล่วงหน้ารายฤดูกาลที่มีการออกแบบให้ แผนที่เกษตรที่เหมาะสม
ความเสียหาย ราคาผลผลิตตกต่ำา คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน การกำาหนดนโยบายและมาตรการชดเชยเยียวยาความ ใช้งานได้ง่ายและสอดรับกับภารกิจการจัดสรรรน้ำา กับการคาดการณ์ปริมาณน้ำาต้นทุน
เสียหายให้แก่เกษตรกรที่ยังไม่สามารถนำาไปใช้ในทางปฏิบัติจริงได้อย่างเหมาะสม ของกรมชลประทาน นอกจากโปรแกรม NARK4.0 ที่
โครงการบริหารจัดการน้ำาอย่างเหมาะสมเพื่อปฏิรูปภาคการใช้น้ำาเกษตรกรรมของประเทศไทยได้เห็นความ พัฒนาขึ้นบนระบบปฏิบัติการ Desktop computer
สำาคัญของการใช้มาตรการไม่ใช้สิ่งก่อสร้างในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำา เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง แล้ว โครงการวิจัยนี้ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อว่า
ปริมาณน้ำาต้นทุนและความต้องการน้ำาภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยมีแนวคิดในการพัฒนาระบบ “WaterSMART” บนระบบปฏิบัติการ iOS เพื่อให้
สนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการบริหารจัดการน้ำา เพื่อเป็นเครื่องมือในการบูรณาการ วิเคราะห์ คาดการณ์และ บุคลากรกรมชลประทานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
บริหารจัดการน้ำาแบบองค์รวมตั้งแต่การคาดการณ์ปริมาณฝน การจำาลองปริมาณน้ำาไหลเข้าอ่างเก็บน้ำา การตัดสิน และสามารถติดตามข้อมูลคาดการณ์ปริมาณน้ำาและ การนำาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ใจระบายน้ำาจากอ่างเก็บน้ำา การจำาลองปริมาณการไหลในลำาน้ำา และการกำาหนดพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเหมาะ ข้อมูลวางแผนการจัดสรรน้ำาที่มีการอัปเดตรายเดือน โปรแกรม NARK4.0 และแอปพลิเคชัน WaterSMART เป็นเครื่องมือการบริหารจัดการน้ำาที่สามารถนำาไปใช้
สมกับปริมาณน้ำาต้นทุน นำาไปสู่การคาดการณ์ผลผลิตทางการเกษตรที่มีความแน่นอนโดยดำาเนินการศึกษาในพื้นที่ ได้อย่างใกล้ชิด ในทางปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับรูปแบบการจัดสรรน้ำาและการใช้น้ำา ที่เป็นประโยชน์ต่อ
ลุ่มน้ำาเจ้าพระยาพื้นที่รวม 134,653 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 23 จังหวัดของประเทศไทย นอกจากนี้ ผลการพัฒนาแบบจำาลองการบริหาร 3 ภาคส่วน
จัดการอ่างเก็บน้ำาที่ได้จากโปรแกรม NARK4.0 พบว่า
สามารถเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกในลุ่มน้ำาเจ้าพระยาโดย 1. เกษตรกร สามารถใช้แอปพลิเคชัน WaterSMART ในการรับข้อมูลผลการคาดการณ์ปริมาณน้ำาต้นทุน
ผลผลิตของโครงการบริหารจัดการน้ำาอย่างเหมาะสม เฉลี่ยได้ร้อยละ 18.02 และสามารถรักษาปริมาณ หรือ แผนการจัดสรรน้ำาจากโครงการชลประทาน เพื่อนำาไปวางแผนและเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยน
เพื่อปฏิรูปภาคการใช้น้ำาเกษตรกรรมของประเทศไทย การทำาเกษตรกรรมเพาะปลูกพืช ประมงและปศุสัตว์ในพื้นที่ทำากินของตนเองให้มีความเหมาะสมภายใต้
การใช้น้ำาต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำาโดยเฉลี่ยได้มากถึงร้อย
ละ 32.99 เป็นการสร้างความมั่นคงทางน้ำาต่อสภาวะ ปริมาณน้ำาต้นทุนที่มีให้เพียงพอตลอดฤดูกาล และสามารถใช้เป็นแนวทางเสนอแนะการพัฒนาแหล่งน้ำา
ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ในพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อสำารองน้ำาไว้ใช้เมื่อเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง เป็นการลดความเสียหายของผลผลิตจาก
การที่มีปริมาณน้ำาไม่เพียงพอ และเป็นการสนับสนุนการปรับตัวของเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบ
โปรแกรมช่วยตัดสินใจในการบริหารจัดการน้ำา การทำาเกษตรกรรมให้ความเหมาะสมกับปริมาณน้ำา สภาพพื้นที่ และความต้องการของตลาด
แบบบูรณาการและทันต่อเหตุการณ์ NARK4.0 2. กรมชลประทาน สามารถใช้โปรแกรม NARK4.0 และแอปพลิเคชัน WaterSMART ในการบริหารจัด
การน้ำาต้นทุนที่มีความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลก โดยใช้ผลการคาดการณ์
ปริมาณฝนและผลการคาดการณ์ปริมาณน้ำาไหลเข้าอ่างเก็บน้ำาล่วงหน้า 1 ปี ในการวางแผนการระบายน้ำา
จากอ่างเก็บน้ำา การจัดสรรน้ำาในพื้นที่ชลประทาน และการคาดการณ์พื้นที่เพาะปลูก อีกทั้งยังสามารถใช้
ผลการคาดการณ์ปริมาณน้ำาฝนล่วงหน้าในการเตรียมการวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำาท่วม น้ำาแล้ง
เพื่อปรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำาและแผนการจัดสรรน้ำา ให้มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์น้ำา
วัตถุประสงค์ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
3. รัฐบาล สามารถนำาแผนการบริหารจัดการน้ำาต้นทุนและแผนการเพาะปลูกพืชที่มีการคาดการณ์ล่วงหน้า
1. พัฒนาต่อยอดเครื่องมือเพื่อบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านการเกษตรของประเทศให้สอดคล้องความ แอปพลิเคชัน WaterSMART มากำาหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชแต่ละชนิด (zoning) ให้มีความชัดเจนตามความเหมาะสมกับปริมาณน้ำา สภาพดิน
ต้องการน้ำา (Demand) และปริมาณน้ำาต้นทุน (Supply) ของแต่ละภาคส่วนให้มีความเหมาะสมสอดคล้องตาม และการรองรับของตลาด นำาไปสู่การกำาหนดนโยบายการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการบริโภคในประเทศ
นโยบายของภาครัฐ
2. กำาหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมที่เหมาะสม จากการจัดสรรน้ำาร่วมกับการพัฒนา การส่งออกไปต่างประเทศ และการกำาหนดมาตรการเชิงปฏิบัติ เช่น การชดเชยเยียวยาเกษตรกรในพื้นที่
เกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยพิบัติน้ำา หรือการส่งเสริมการปลูกพืชตามความต้องการของตลาด
การเก็บกักฝน (Rainwater Harvesting) และการจัดการแหล่งเก็บกักน้ำาในพื้นที่การเกษตร (Rainwater Storage)
3. พัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในบริหารจัดการน้ำาโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและข้อมูลประกอบ ซึ่งเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตสินค้าภาคการเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการในประเทศและ
ศักยภาพการส่งออกตามความเหมาะสมกับทรัพยากรหรือปริมาณน้ำาต้นทุนที่มี
การจัดทำานโยบายของภาครัฐ
4. ทดสอบและปฏิบัติการทดลองจริงเพื่อประเมินหารูปแบบการบริหารจัดการน้ำาที่เหมาะสมสำาหรับพื้นที่
เกษตรกรรมเพาะปลูกพืช ประมง และปศุสัตว์ ในพื้นที่ประสบปัญหาวิกฤติน้ำา
มหกรรมง�นวิจัยแห่งช�ติ 2561 | 132 133 | Thailand Research Expo 2018