Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 52
572
รสชาติแห่งธรรม
ณ สานักวิปัสสนาพัฒนาทางจิต จ.ตรัง วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
จรงิ ๆ แลว้ การศกึ ษาธรรมะคา สอนของพระพทุ ธเจา้ ทสี่ า คญั ทส่ี ดุ คอื ศกึ ษาแลว้ เราไดร้ บั ประโยชน์ ได้รับรู้ถึงรสชาติแห่งธรรม ได้สัมผัสถึงรสชาติแห่งธรรมนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน ให้เรามีปัญญาเห็นถึงสัจธรรมความจริงที่เป็นไปเพื่อออกจากทุกข์ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่เราศึกษา ธรรมะ เราควรพิจารณาถึงแนวทางที่จะพาให้เราออกจากทุกข์อยู่เสมอ น่ันคือสาระสาคัญของการศึกษา ธรรม ไมว่ า่ จะศกึ ษาคา สอนของพระพทุ ธเจา้ มากมายแคไ่ หนกต็ าม ทสี่ า คญั คอื การไดเ้ ขา้ ถงึ ธรรมนน้ั ไดร้ บั รู้ถึงรสชาติแห่งธรรมนั้น ถามว่า รสชาติแห่งธรรมนั้นอยู่ที่ไหน ? รสชาติแห่งธรรมไม่ได้อยู่ไกล รสชาติแห่ง ธรรมจริง ๆ กลับเป็นสภาพจิตของเราที่อิสระ ที่ไม่ทุกข์ ที่มีความสงบ ที่มีความสุข ที่เบิกบาน ที่ผ่องใส ที่ บริสุทธิ์
เราอาศยั สภาวธรรม อาศยั การพจิ ารณาอาการพระไตรลกั ษณข์ องรปู นามตา่ ง ๆ กเ็ พอื่ ทจ่ี ะไดส้ มั ผสั รสชาติแห่งธรรม คือความไม่ทุกข์ ความผ่องใส ความสุข ความบริสุทธิ์ของจิต ความอิสระของจิต นั่น คือเป้าหมายสูงสุดของการศึกษาธรรมะ เมื่อเรารู้ว่าเป้าหมายของการศึกษาธรรมคาสอนขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามุ่งเน้นเพื่อความดับทุกข์แล้ว เราก็มาพิจารณาว่าสิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เป็นไปตามแนวทางนั้นหรือเปล่า แล้วแนวทางที่จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์จะพิจารณาอย่างไร พิจารณา อะไร อาศัยอะไร ? เราก็จะเห็นว่าการที่พิจารณาถึงความเป็นจริง ถึงอาการของรูปนามที่กาลังปรากฏอยู่ใน ปัจจุบันน้ีแหละเป็นเส้นทางท่ีจะพาไปสู่ความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง
ท่ีเคยบอกแล้วว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีสติรู้อยู่กับปัจจุบันอย่างไม่มีตัวตน ไม่มีความเป็นเรา มีแต่ สติ สมาธิ ปัญญาท่ีพิจารณาถึงความเป็นไปของอารมณ์ท่ีกาลังปรากฏอยู่เฉพาะหน้าเรา ณ ขณะนี้เดี๋ยวนี้ เป็นปัจจุบันขณะจริง ๆ การท่ีเรามีเจตนาที่จะรู้ถึงอาการพระไตรลักษณ์หรืออาการเกิดดับนั้น ไม่จาเป็น ตอ้ งปรงุ แตง่ อะไรเลย ขอใหม้ เี จตนาทจ่ี ะพจิ ารณาถงึ การเกดิ ขนึ้ -ตงั้ อย-ู่ ดบั ไปของอารมณท์ กี่ า ลงั ปรากฏอยู่ และอารมณ์ที่กาลังปรากฏก็ไม่ใช่อะไรท่ีอยู่ไกล ไม่ใช่อะไรที่ยังไม่เกิดข้ึน ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต