Page 218 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 218
214
อันนี้ที่ปรากฏอยู่ทางจิตบอกว่าเป็นเราหรือเปล่า ? อันนี้อย่างหนึ่ง
อกี อยา่ งหนงึ่ สงิ่ ทเี่ ราพงึ พจิ ารณาทจี่ ะทา ใหม้ คี วามชดั เจนมากขนึ้ ก็ คอื คา ถามทพี่ ระองคท์ รงตรสั ถามภกิ ษวุ า่ เวทนาเปน็ ของเทยี่ งหรอื ไมเ่ ทยี่ ง แม้แต่ความทุกข์ใจความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น ลองตั้งสติและพิจารณาดูว่า ความทกุ ขท์ กี่ า ลงั เกดิ ขนึ้ นี้ เปน็ ของเทยี่ ง เปน็ อยอู่ ยา่ งนตี้ ลอดไหม ? หรอื มี อ า ก า ร ป ร า ก ฏ เ ก ดิ ข นึ ้ ม า แ ล ว้ ก เ็ ป ล ยี ่ น ไ ป ห า ย ไ ป เ บ า ล ง แ ล ว้ เ ก ดิ ข นึ ้ ม า ใ ห ม ่ เปลี่ยนแปลงเกิดดับเป็นขณะ ๆ อยู่ หรือเกิดแล้วดับเป็นระยะ ๆ ? นี่คือ ลักษณะของความไม่เที่ยง แม้แต่ความทุกข์เองก็ไม่เที่ยง เมื่อไม่เที่ยง... ควรหรอื ทจี่ ะยดึ วา่ เปน็ ตวั เราของเรา ในเมอื่ ความทกุ ขน์ นั้ เขาเปลยี่ นแปลง ไปตามเหตุปัจจัยของตน ?
แต่ถ้าจะให้จิตคลายจากอุปาทานจากความทุกข์อันนั้นมากขึ้น อีก ทาอย่างไร ? ในเมื่อเห็นแบบนี้ ไม่ใช่ตัวเราของเรา ความทุกข์เกิดขึ้น มาแล้วก็ดับ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งหนึ่งที่พึงพิจารณาก็คือว่า แล้วตัวจิตที่ทาหน้าที่รนู้ั้นเป็นอย่างไร?มีความตั้งมั่นมีความเบาบางมี ความอ่อนแอ มีความมั่นคง มีความว่าง มีความกว้าง มีความสงบ หรือ เ ป น็ อ ย า่ ง ไ ร ? ถ า้ ก ล บั ม า ด ใู จ ร ห้ ู ร อื ต วั ว ญิ ญ า ณ ร อ้ ู ย า่ ง น ี ้ เ ห ม อื น ก บั เ ป น็ ก า ร กลบั มาดตู วั เองวา่ ตวั จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ บั รอู้ ารมณเ์ ขม้ แขง็ แคไ่ หน มคี วามตงั้ มั่นแค่ไหน มีสติแค่ไหน ปัญญาพิจารณามีความชัดเจนแค่ไหน
ถ้าเห็นว่าจิตที่ทาหน้าที่รู้ความทุกข์เล็กกว่าความทุกข์ กาลังอ่อน กว่าความทุกข์ มาดูตรงนี้แล้วก็นิ่ง ทาจิตให้กว้างกว่าความรู้สึกที่ไม่ สบายใจ ใหก้ วา้ งออกไป แยกเปน็ คนละสว่ น พอทา แบบนคี้ วามเปน็ คนละ ส่วนจะยิ่งชัดขึ้น ช่องว่างระหว่างความทุกข์กับจิตที่ทาหน้าที่รู้ยิ่งกว้างขึ้น ความทุกข์ยิ่งเบาบางยิ่งน้อยลง ตรงนี้จะทาให้เห็นชัดว่าแม้แต่ทุกขเวทนา