Page 245 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 245
227
ไหนที่ปรากฏขึ้นมา นิมิตต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นมา ที่เป็นอาการของรูป มีอาการ เกิดดับ อาการกระเพื่อมไหว เป็นจุดแสงสว่างขึ้นมา ก็คืออาการเกิดดับ ของรูปหรือของกาย แต่เป็นรูปปรมัตถ์ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีอรรถบัญญัติ ไม่มี รูปร่าง แต่บอกถึงลักษณะของอาการที่ปรากฏได้ว่าเกิดดับในลักษณะ อย่างไร... เกิดเร็ว เกิดช้า นั่นก็คืออาการเกิดดับของรูป
ถา้ สงั เกตดี ๆ เราจะเหน็ วา่ อาการทปี่ รากฏอยขู่ า้ งหนา้ จะอาศยั สว่ นใด ส่วนหนึ่งของรูปปรากฏขึ้นมา แต่ไม่มีรูปร่างของรูปเท่านั้นเอง ลองหลับตาดู สิ พอหลับตาปุ๊บ บริเวณข้างหน้าในที่ว่าง ๆ เขามีอาการอะไรปรากฏขึ้นมา ? ถามว่า เราเห็นอะไร ? ขณะที่เราหลับตาแล้ว ทาไมถึงมีอาการปรากฏขึ้นมา ข้างหน้า ? เราเห็นอากาศ หรือว่าเป็นการเห็นอาการเกิดดับบริเวณนี้ อาศัย รูปที่ข้างหน้าเรานั่นเอง บางทีอาศัยผนังตา อาศัยลูกตา อาการเกิดดับเล็ก ๆ แต่เราเห็นชัดถึงการเปลี่ยนแปลง ถึงการเคลื่อนไหวเกิดดับของเขา นั่นคือ อาการของกาย อาการของรูปเหมือนกัน
อีกอย่างหนึ่งก็คือ อาการกระเพื่อมไหว อาการเต้นของหัวใจ ก็คือ อาการของกายหรอื อาการของรปู นนั่ เอง การรกู้ ายในกาย ตามรอู้ ะไรของกาย ? เมื่อเราตามรู้ เห็นการเกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะของกายแล้ว ทาให้เรา เห็นอะไร ? เห็นว่ารูปนี้เป็นของไม่เที่ยง มีการเกิดดับเปลี่ยนแปลงตลอด เวลา เขาประกาศตัวเขาว่าเป็นอย่างนั้นเอง และยิ่งดูไป ยิ่งเห็นอาการเกิดดับ มากเท่าไหร่ รูปนี้กลับเป็นของว่างเปล่า ไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ ไม่มีอะไรให้ เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นได้เลย เราอาศัยได้ชั่วขณะหนึ่ง ๆ เท่านั้นเอง เราอาศัย ได้กี่ปี กี่เดือน กี่วัน ? เราอาศัยได้ไม่นานเลย ไฉนเลยเราถึงต้องไปยึด หรือ รู้สึกว่าเราต้องยึด ?
ถ้าใช้คาว่า “รู้เวทนาในเวทนา” เมื่อไหร่ต้องแยกเป็น ๒ ส่วน เวทนา ทางกายอยา่ งหนงึ่ เวทนาทางจติ อกี อยา่ งหนงึ่ ถา้ เราตามรเู้ วทนาในเวทนา เมอื่ มีเวทนาทางกายเกิดขึ้น เวทนาทางจิตเป็นอย่างไร ? แต่ถ้าตามรู้อาการของ