Page 109 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 109

969
เพราะจิตที่คมชัด จิตที่ตั้งมั่น จิตที่มีพลัง ทาให้ภาพข้างหน้า ภาพที่ปรากฏนี่นะเห็นชัดเจนไปด้วย วา่ ดบั ...เวลาดบั เขาดบั แบบมเี ศษหรอื ไมม่ เี ศษ อารมณต์ รงนกี้ ส็ า คญั ไมต่ า่ งอะไรกบั ความคดิ เราเลย ไมต่ า่ ง อะไรกับเสียงที่ได้ยิน เพราะอะไร ตรงนี้เขาเรียกตากระทบรูป ตากระทบรูป คือการได้เห็นอารมณ์ทางตา ที่เราลืมตาดู เวลากระทบ โดยส่วนใหญ่เห็นภาพกระทบรูป เห็นปึ๊บเขาจะวิ่งเข้ามาที่ใจ เห็นกระทบรูป แต่ อารมณ์นั้นเข้ามาถึงใจ ทาให้รู้สึกว่า ยินดีไม่ยินดีในอารมณ์อันนั้น
แต่ตอนนี้ สิ่งที่เราต้องสังเกตต่อก็คือว่า เมื่อจิตที่มีความผ่องใส อารมณ์ที่ปรากฏข้างหน้ามีความ ชดั เจน สงิ่ ทตี่ อ้ งสงั เกตกค็ อื วา่ ภาพทเี่ หน็ ทคี่ มชดั อยนู่ นั้ พอเหน็ ปบ๊ึ เขาคา้ งอยู่ หรอื เหน็ คมชดั แลว้ กด็ บั ตรง นั้นเลย ภาพที่เห็นกลับมา...วิ่งมาดับที่ข้างในความรู้สึกเรา หรือดับตรงนั้น เกิดตรงไหนดับตรงนั้น ตรงนี้ เขาเรียกว่าเกิดที่ไหนดับที่นั่น อะไรเกิดที่ไหน ภาพที่ปรากฏเห็นตรงไหน ความรู้สึกจิตเราวิ่งไปรับรู้อารมณ์ เห็นจิตที่ใสไปรับรู้อารมณ์แล้วเขาดับ รู้ตรงนั้นดับตรงนั้น รู้ตรงนั้นดับตรงนั้น
ถ้าเห็นว่า เห็นตรงนั้นแล้วดับตรงนั้น ลองดูว่า แล้วสังเกตว่าผลที่ตามมาจิตใจเป็นอย่างไร ตรงนี้ จะเห็นว่าอารมณ์เหล่านั้นมากระทบจิตใจ มาเป็นเหตุปัจจัย มาบีบคั้นให้เกิดความทุกข์ได้หรือเปล่า ทาให้ อกุศลเกิดได้ไหม การรู้แบบนี้นี่นะ ทาไม...สภาวธรรมที่บอกว่า ธรรมชาติของอารมณ์เกิดตรงไหนดับตรง นั้น เป็นการป้องกันไปในตัว สติ สมาธิ จริง ๆ ตัวนี้คือปัญญา ที่จะเห็นชัดว่า การที่รับรู้อารมณ์นั้นก็เกิด ตรงนั้น สอนอะไร โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะเห็นแล้วดึงเข้ามาหาตัว ดึงเข้ามาหาตัว
ตรงนี้ อารมณ์ที่เกิดขึ้นนี่นะ...ความประทับใจในอารมณ์นั้น ความประทับใจ ความยินดีพอใจใน อารมณ์อันนั้น ก็จะต่างไป ต่างไปอย่างไร คือรู้ว่าอารมณ์ที่กาลังเห็นอยู่ เหมือนเห็นต้นไม้เขียวใส มีความ สดชื่นมากเลย เหมือนใบไม้สดชื่น แต่ความสดชื่นของใบไม้ กับสภาพจิตอันไหนมีกาลังมากกว่ากัน จิตที่ มีความผ่องใส จิตที่ดีที่ใส ที่เห็นใบไม้ต้นไม้สดใสนี่นะ อันไหนมีความผ่องใส อันไหนให้ความรู้สึกดีกว่า กัน จริง ๆ แล้ว เหตุตรงนี้ เหตุเพราะจิตที่ผ่องใส จิตเราดีอยู่แล้วภาพข้างนอกจึงดี และอารมณ์เหล่านั้น ไม่ทาให้จิตเกิดอกุศลหรือขุ่นมัว เหมือนกับเห็นแล้วก็ดับ เห็นแล้วก็ดับ
ตรงนี้แหละ เป็นการเห็นธรรมชาติที่เกิดขึ้น และถ้าเราใส่ใจอย่างต่อเนื่อง จริง ๆ ไม่ควรใช้คาว่า ถ้า นะ ถ้าใช้คาว่า ถ้า เมื่อไหร่ ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่ถ้าคนที่เห็นแบบนี้แล้ว คาถามก็คือว่า เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว คิดว่าอย่างไร การรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี่นะ การเห็นภาพต่าง ๆ เกิดตรงนั้นดับตรงนั้น เกิดตรงนั้น ดับตรงนั้นนะ จิตใจรู้สึกเป็นอย่างไร ดีไหม ถ้ารู้สึกดี ถ้ารู้สึกดีแล้วควรจะทาอย่างไร ควรจะทาต่อ...ใช้งาน ทาให้มากขึ้นไหม ควรจะทาให้มากขึ้นไหม เพื่ออะไร เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อผู้อื่นหรอก เพื่อตัวเราก่อน เพื่อ ความไม่ทุกข์ เพื่อความอิสระของจิตก่อน
แต่ถ้าเราไม่ทุกข์ อารมณ์ภายนอกนั้นก็ไม่ถูกบีบคั้น ไม่ถูกเบียดเบียนด้วยเช่นกัน ไม่ถูกอย่างไร สังเกตดูนะว่า เวลาเรารับรู้อารมณ์ภายนอกแล้วรู้สึกว่า มันเข้ามาถึงใจ แล้วเกิดความไม่พอใจ สิ่งที่ตาม มาคืออะไร ความคิด ความคิดของเราที่ไม่ชอบนี่นะ พอไม่ชอบ พลังของความไม่ดี ความรู้สึกความเป็น อกุศล และจิตเราจะพุ่งไปหาเรื่องนั้น พุ่งไปที่ตรงนั้น พุ่งไปที่ตรงนั้น ผัสสะคือการกระทบเหล่านี้ อารมณ์


































































































   107   108   109   110   111