Page 111 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 111

971
ไปแล้วดับ คือรู้ว่ากาหนดอะไร หรือรู้ว่าเข้าไปกาหนดรู้ ดูใจรู้ ที่รู้อารมณ์แล้วดับ ใจรู้ที่ไปรู้ความว่าง ใจรู้ที่ เข้าไปรู้ความใส แล้วก็ดับ ดับแล้วใสขึ้น ใจรู้ดวงใหม่เกิดขึ้นมา เข้าไปรู้ใหม่ ดับใหม่ ๆ
คือถ้ารู้แบบนี้ สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นชัดก็คือว่า ยิ่งกาหนดปฏิบัติไป เราจะบอกตัวเองได้ทันทีว่า ยิ่ง ปฏิบัติกาหนดรู้แบบนี้ไป ทาให้จิตใจเป็นอย่างไร จิตใจรู้สึกสงบ รู้สึกมีพลังขึ้น รู้สึกสบายขึ้น อันนี้คือพูด ถึงสภาวะล้วน ๆ พูดถึงสภาวะ ถึงอาการพระไตรลักษณ์ของอารมณ์ต่าง ๆ ล้วน ๆ แต่การที่เรารู้แบบนี้ ถ้า เราจะพิจารณาถึงอาการ ถึงอารมณ์ เหตุผล เหตุปัจจัยของความคิดต่าง ๆ ของอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี่นะ นั่น อีกเรื่องหนึ่ง ต้องสังเกตอีกแบบหนึ่ง คือใส่ใจบัญญัติ เรื่องราวที่เกิดขึ้น
แต่ที่พูดนี่นะ เรารู้แบบนี้เพื่ออะไร เพื่อการที่จะให้การปฏิบัติ การขัดเกลาจิตใจของเรา ให้เดินหน้า ให้เร็ว ให้เดินหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งที่เราจะพิจารณาสิ่งรอบข้าง อย่างที่พูดมาเสมอว่า ถ้าจิตเราว่าง เราสงบ เราผ่องใสขึ้นแล้ว พอย้อนกลับไปคิดนี่นะ ให้พิจารณาดูว่าอารมณ์ สภาวธรรมที่เกิด ขนึ้ บอกอะไรกบั เรา สอนอะไรกบั เรา อนั นตี้ อ้ งซา้ นะ ไมใ่ ชแ่ คร่ แู้ ลว้ จบแลว้ เพราะถา้ จติ ยงิ่ ละเอยี ดยงิ่ ผอ่ งใส มากขึ้น จะทาให้เราเข้าใจอารมณ์ที่เข้ามา ที่เคยเกิดขึ้นแล้วนี่นะ มีความชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้น
ความคิดที่เคยเกิดขึ้น ความสงสัยที่เคยสงสัย บางครั้งเราเข้าใจแล้ว แต่ถ้าจิตมีความผ่องใสมาก ขึ้น สะอาดขึ้น ความเข้าใจในเรื่องนั้นก็จะเปลี่ยนไป จะต่างไป หรือแยบคายมากขึ้นอีก ตรงนี้แหละเป็น ตัวบอกว่า การที่เราพัฒนาจิต พัฒนาจิต พัฒนาสติ สมาธิ ปัญญา ให้แก่กล้ามากขึ้นนี่นะ ปัญญาตรงที่เรา เข้าใจชัดขึ้นละเอียดขึ้น นั่นคือการพัฒนาปัญญาของเรา เราเข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิม เพราะจิตเราผ่องใสขึ้น สะอาดขึ้น และจิต...ปัญญาก็จะละเอียดขึ้น ถ้าใส่ใจ
อนั นตี้ อ้ งมเี จตนาทจี่ ะศกึ ษา มเี จตนาทจี่ ะใสใ่ จ สงั เกตใหด้ ใี หแ้ ยบคาย เพราะฉะนนั้ ถา้ เราไมส่ งั เกต แบบนนี้ นี่ ะ อารมณท์ ลี่ ะเอยี ด เขาเรยี กวา่ กเิ ลสทลี่ ะเอยี ดมนั ยงั อยขู่ า้ งใน บางครงั้ แคม่ องเผนิ ๆ ผา่ น ๆ ไมพ่ อ ต้องเข้าไปให้แยบคาย ให้ชัดเจนในสภาพจิตตัวเองจริง ๆ รู้ให้ชัด ไม่แค่คิดว่า...น่าจะ อันนี้น่าห่วงมากเลย คิดว่า...แล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น คงจะเป็นอย่างนั้น...ปัญหาตามมาเยอะแยะมากมาย คาว่า คงจะ น่าจะ
เพราะถ้าเรารู้ คือรู้ชัดขณะนี้เป็นอย่างน้ี ขณะนี้ชัดแบบนี้ เพราะเหตุปัจจัยแบบนี้เขาก็เป็นแบบนี้ พอขณะต่อไปเหตุปัจจัยเปลี่ยน ตรงนี้แหละที่บอกเหตุปัจจัยเปลี่ยน เรื่องราวต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป เพราะ เหตุปัจจัยเปลี่ยน แต่สาหรับการรับรู้อารมณ์ของเราที่มีความชัดเจนต่างไป ความเข้าใจที่ต่างไป มุมมองที่ ต่างไป เหตุปัจจัยที่เปลี่ยนไปคืออะไร เหตุปัจจัยที่เปลี่ยน คือตัวสติ สมาธิ ปัญญา ที่เปลี่ยนไป การใส่ใจ จิตที่ละเอียด นี่คือเป็นปัจจัย ที่ทาให้การเห็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวนี่นะ เห็นมุมมองที่ต่างไป ที่ต่างไปนี่ นะ ทั้งเห็นชัดเจนกว่าเดิม ทั้งดีไม่ดี มีความชัดเจนมากขึ้นที่ต่างไป
นี่คือเพราะอะไร เพราะจิตที่ละเอียดขึ้น จิตที่ละเอียดแยบคายขึ้น วิธีการจึงเริ่มต้น...ที่บอกว่า ทา อย่างไรจิตจึงจะละเอียดขึ้น เราเริ่มพัฒนาตั้งแต่สนใจการเปลี่ยนแปลง การเกิดดับของลมหายใจเข้าออก สนใจการเปลี่ยนแปลงการเกิดดับของเวทนา สนใจการเปลี่ยนแปลงการเกิดดับของความคิด สนใจความ


































































































   109   110   111   112   113