Page 87 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 87

947
ผสั สะทเี่ ขา้ มากระทบทางตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ ไมใ่ ชเ่ กดิ จากความอยากของใครอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ เพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งเกิดจากเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่าง จากกรรมที่เราทาในอดีตเป็นวิบากส่งผลให้ เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ทาให้ผัสสะที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีความแตกต่างกันไป ถ้าพิจารณาดี ๆ เราจะเห็นว่าอารมณ์ที่เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เป็นวิบาก ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างเดียว ตลอดเวลา ผัสสะที่เป็นกุศลวิบากเป็นสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราก็มีมากมาย ทั้งสิ่งดีและไม่ดีก็สลับ กันเกิดขึ้นมา ในแต่ละเวลาก็ต่างกันไป ไม่ได้เป็นสิ่งดีตลอดเวลา ไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีตลอดเวลา นี่แหละคือ วัฏจักร นี่แหละคือวัฏสงสาร
แตก่ ารทเี่ รากา หนดรพู้ จิ ารณาดว้ ยสตปิ ญั ญา เหน็ ถงึ อาการเกดิ ดบั เหน็ อาการพระไตรลกั ษณ์ เหน็ ถงึ ความไม่มีตัวตน เห็นถึงธรรมชาติตรงนั้น เมื่อผัสสะแต่ละเรื่องแต่ละอารมณ์เข้ามากระทบ ส่งผลให้เห็นถึง ความเปน็ ธรรมชาติ แลว้ จติ กม็ คี วามสงบ มคี วามตงั้ มนั่ มคี วามเปน็ อสิ ระ เพราะเหน็ ถงึ ความเปน็ คนละสว่ น ปัญญาตรงนี้นี่แหละเป็นส่ิงที่ผู้ปฏิบัติทั้งหลายจะพึงพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง การพิจารณาใน ลกั ษณะอยา่ งนี้ คอื การพฒั นาปญั ญาของเราใหเ้ ฉยี บคมมากขนึ้ ไมว่ า่ จะอยทู่ ไี่ หน ไมว่ า่ จะอยใู่ นอริ ยิ าบถใด เรากย็ งั เหน็ ถงึ สภาวธรรมทเี่ ปน็ ธรรมดาธรรมชาตอิ นั นี้ แตก่ อ็ กี นนั่ แหละ การทจี่ ะเหน็ ถงึ สภาวะทเี่ ปน็ ธรรมดา ธรรมชาติอันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ใครเห็นได้ก็ไม่ใช่ธรรมดา... อะไรที่ไม่ธรรมดา ?
สติ ไม่ใช่สติธรรมดาสามัญ แต่เป็นสติที่มีกาลังเป็นพิเศษ ต้องมีสมาธิแก่กล้าพอสมควร แล้วก็ จะต้องมีปัญญา การใส่ใจพิจารณาอย่างแยบคาย ถึงจะเห็นอาการเหล่านี้ได้ นั่นเป็นกระบวนการของการ พัฒนาในการปฏิบัติธรรม การที่เราสังเกตอาการพระไตรลักษณ์ กาหนดรู้อาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกาย-เวทนา-จิต-ธรรม หรืออาการของรูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ หรือ รูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส-ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจของเรา การพิจารณาเหล่านี้ไม่ต้องไปหาสิ่งที่ไกลตัว มากนัก แต่นั่นคือวิธีการที่จะพัฒนาสติปัญญาให้เฉียบแหลมให้ชัดเจนมากขึ้น ให้คลายอุปาทานได้ง่ายขึ้น เป็นวิธีการที่จะทาให้จิตของเราได้เจอกับความอิสระ ไม่ต้องคลุกคลีกับอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งจนเกิด ความทุกข์ขึ้นมา
เพราะถา้ เมอื่ ไหรท่ มี่ ปี ญั ญาเกดิ ขนึ้ มาแลว้ ปญั ญาอนั นนั้ แหละจะทา หนา้ ทดี่ ว้ ยตวั ของตวั เอง ไมใ่ ชว่ า่ เราต้องไปสั่งต้องไปหา แต่เพราะการพัฒนาปัญญา/การทาให้มีปัญญาเกิดขึ้น และรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ด้วย ปัญญาในลักษณะอย่างนี้ เมื่อปัญญามีความคล่องแคล่วมีความชานาญและมีกาลังย่อมทาหน้าที่ของตน ทาหน้าที่ที่จะรู้ถึงความเป็นจริง ทาหน้าที่ที่จะตัด ธรรมชาติของตัวปัญญาเกิดขึ้นมาเพื่อตัด ตัดอะไร ? ตัดอวิชชา ตัดความไม่รู้ ตัดความทุกข์ เมื่อได้รู้ในสิ่งที่ต้องรู้หรือเข้าใจความเป็นไป ความทุกข์นั้นก็จะ ดับไป ความเคลือบแคลงสงสัยก็หายไป เหลือแต่ความสงบ ความตั้งมั่น เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรม ไม่ใช่ว่าเราต้องไปหาสิ่งที่ไกลตัว ให้พิจารณาอาการที่กาลังปรากฏ ณ ปัจจุบันขณะ
เหมือนขณะนี้ ขณะที่เราได้ยินเสียงอาจารย์ นั่นก็คือผัสสะ เสียงที่ได้ยินก็เป็นรูปอย่างหนึ่ง ซึ่งเรา สามารถกา หนดรอู้ าการเกดิ ดบั ได้ ลองพจิ ารณาวา่ เสยี งทกี่ า ลงั ไดย้ นิ นเี้ กดิ อยทู่ ไี่ หน... เกดิ อยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ เกดิ


































































































   85   86   87   88   89