Page 110 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 110
86
วันธรรมดาก็เข้าไปกราบสามครั้ง กราบระลึกถึงพระพุทธเจ้า กราบ ระลึกถึงพระธรรม กราบระลึกถึงพระอริยสงฆ์ ถ้าเราสังเกตเราก็จะเห็นว่า การกราบอย่างละครั้ง พระพุทธเจ้าครั้งหนึ่ง พระธรรมครั้งหนึ่ง พระสงฆ์ ครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้น เวลาเรากราบพระ ก็เพื่อความเหมาะสม เวลากราบ พระพุทธเจ้า ก็เอื้อเฟื้อต่อพระธรรม เอื้อเฟื้อต่อพระสงฆ์ เพราะฉะนั้น เรา จึงกราบสามครั้ง
อย่างที่บอกแล้วว่า ในวันสาคัญที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ธรรม เป็น วันที่พระพุทธเจ้าชนะมาร สิ่งที่ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เป็นปัจเจกพุทธเจ้า เป็นสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นผู้มี ปัญญา สามารถสอนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้เข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ สิ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้คืออะไร ? ตรงนี้แหละที่เรามาทบทวนกันในวันที่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มาระลึกถึงธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมอะไร ? ตรัสรู้อยู่สี่อย่าง.. รู้ว่าทุกข์ รู้เหตุ ให้เกิดทุกข์ รู้ความดับทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์.. ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ที่เราท่องกันและจากันได้ ความทุกข์ที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร ? อันนี้เราต้องหาเหตุนะ แต่ก่อนอื่นต้องรู้ว่า ทุกข์คืออะไร ? จริง ๆ เขาก็แปล ตรง ๆ อยู่แล้ว ความทุกข์คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เขาเรียกว่า “เวทนาทางกาย เวทนาทางใจ”
เวทนาทางกาย ทุกข์ทางกาย เกิดจากอะไร ? ธรรมชาติของร่างกาย ของคนเรามีการเปลี่ยนแปลง มีความเสื่อมเป็นธรรมดา เวทนาก็เกิดขึ้น.. มี แค่ร่างกาย มีแต่รูปอย่างเดียว จะมีเวทนาได้ไหม ? ต้องมีองค์ประกอบอย่าง อื่นเข้ามา มีกายอย่างเดียว ถ้าไม่มีจิต ก็จะไม่รับรู้ถึงเวทนาที่เกิดขึ้น ไม่มีจิต ไม่มีเส้นประสาทในร่างกาย เราก็ไม่มีการรับรู้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นต้องมีองค์ ประกอบ ต้องมีปัจจัยซึ่งกันและกัน
ทีนี้เมื่อมีเวทนาทางกายเกิดขึ้น ส่วนใหญ่แล้วเวทนาทางกาย ความ
