Page 168 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 168
144
ฟังธรรม เอาธรรมคาสอนไปปฏิบัติ เพื่ออะไร ? ก็เพื่อความเจริญงอกงาม ความผาสุกของชีวิตของเรา ชาวพุทธเราถือพระพุทธเจ้าเป็นครู เป็นผู้ชี้ทาง สว่าง ทางเราจะสว่างได้อย่างไร ถ้าเราไม่รู้จักทางมืด ใช่ไหม ? ที่เรารู้ว่ามืด เพราะอะไร ? ชีวิตเราที่เวียนว่ายอยู่ เปลี่ยนแปลงไปทุกวันนี้ มีแต่ความทุกข์ ความเร่าร้อน ความไม่สบายใจ ใครก็ตามเมื่อเจอปัญหา มีความทุกข์ขึ้นมา แล้วหาทางออกไม่ได้ เราใช้คาว่า “มืดแปดด้าน” มืดแปดด้านนี่ เราก็จะรู้สึก.. โอ้โฮ! ไปไม่เป็นจริง ๆ จะไปที่ไหนดี ?
มีที่เดียวที่จะไปคือ “ไปวัด” จะได้สว่าง แต่จะไปตอนไหนนั้นอีก เรื่องหนึ่ง บางคนปรับตัวได้ทัน ก็ไปตอนที่เดินไปเองได้ ก็ได้เจอแสงสว่าง ไปถามธรรมะ ได้ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม เบื้องต้นคืออะไร ? ก็คือเรื่องศีล นนั่ เอง สงิ่ ไหนทเี่ ราทา แลว้ ไมถ่ กู ทา แลว้ ไมด่ ี นา มาพจิ ารณาเพอื่ แกไ้ ขปรบั ปรงุ ตัวเอง ถามว่า.. ตรงไหนจะทาให้เราสว่าง ? ถ้าเรามีปัญหา เข้าไปหาธรรม ได้ฟังธรรม เข้าใจในธรรม ทาให้เราสว่างว่าการที่เราทุกข์อยู่นั้นเพราะอะไร เพราะการไปยึดอะไร หลงไหลในอะไร มองไม่เห็นอะไร จึงทาให้เราทุกข์
เมื่อได้ฟังธรรม เราเข้าใจ มีสติ แล้วก็ตาสว่างนั่นแหละ ได้ “แสงสว่าง แห่งปัญญา” ได้ธรรมะ นาธรรมะเข้ามาพิจารณา มาปฏิบัติ ไม่ใช่แค่แสงสว่าง เหมือนแสงไฟ ถ้าไปตอนตาย ก็ได้เห็นแต่แสงสว่างของแสงไฟอย่างเดียวนั่น แหละ ตอนไฟท่วมตัว ตอนเขาเผาแล้ว เพราะฉะนั้น การที่เราเข้าวัด เข้าไป เพื่อที่จะได้ฟังธรรม นาธรรมะมาปฏิบัติ
เรามาระลึกถึงพระพุทธเจ้าในวันนี้ เรามา “ระลึก” ถึงอะไร ? ถึงธรรม ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ “รู้” อะไร ? รู้เรื่องทุกข์ เรื่องเหตุให้เกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติ ถึงความดับทุกข์ และเวลาทุกข์ดับไปแล้วเป็นอย่างไร.. รู้ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องนี้ รู้ว่าเหตุแบบนี้เป็นทุกข์ อาการแบบนี้เรียก ว่าทุกข์ เราก็รู้! บางครั้งรู้ทุกข์ แต่ไม่รู้วิธีออกจากทุกข์ ไม่ใช่บางครั้งหรอก หลาย ๆ ครั้ง เวลาทุกข์แล้วไม่รู้วิธีออกจากทุกข์ “ส่วนใหญ่” แล้วเวลาทุกข์
