Page 169 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 169

145
ขึ้นมา กว่าจะออกจากทุกข์ได้ นานเลย!
อะไรคือข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ? เบื้องต้นท่านบอกว่าให้มี “ศีล”
อันนี้เป็นตัวป้องกัน “สมาธิ” เป็นตัวเสริม “ปัญญา” นั่นคืออาวุธ ที่จะมาดับ ความทุกข์ของเรา เขาเรียกว่ามี “มรรคแปด” แต่ย่อลงมาก็เหลือ “ศีล สมาธิ แล้วก็ปัญญา” สมาธิเป็นตัวกาลัง เป็นตัวพลัง ปัญญาเป็นเหมือนอาวุธในการ ดับทุกข์ของเรา ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อลงมาก็เหลือ “ตัวสติ” เท่านั้นแหละ ที่ จะเข้าไปดับทุกข์ได้
สติทายังไงจะดับทุกข์ได้ ? สติรู้อยู่กับปัจจุบัน รู้อะไร ? รู้อารมณ์ ดูอาการ ดูกาย ดูจิต รู้อารมณ์อะไร ? อารมณ์ที่เกิดทางทวารทั้งหก.. รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ ที่เข้ามาทางทวารทั้งหก รู้อย่างไร ถึงจะไม่ทุกข์ ? ก็เรารู้อยู่ทุกวันว่าเสียงมาทางหู กลิ่นก็มาทางจมูก รสก็มา ทางลิ้น เย็นร้อนอ่อนแข็งเคร่งตึง สัมผัสด้วยกาย สุขทุกข์อุเบกขา ก็เกิด ที่ใจ โลภะโทสะโมหะ เกิดที่ใจ
อารมณ์ที่เข้ามาทางทวารทั้งหก ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถามว่า เราจะปฏิเสธอารมณ์เหล่านั้นได้ไหม ? ถ้าตาไม่ดี ก็ปฏิเสธได้ ไม่ต้องดู ไม่ ต้องเห็นหรอก แต่ถ้ามีตาดี มันก็จะเห็นโดยธรรมชาติ เพราะหน้าที่ของ เขา หน้าที่ของเราคือ “เลือก” เลือกที่จะรู้ เลือกที่จะรับ เลือกที่จะวางหรือ เลือกที่จะยึด เลือกที่จะรับหรือเลือกที่จะปฏิเสธ ไม่ใช่ปฏิเสธแบบไม่รู้ ปฏิเสธ แบบไม่รับ
อารมณท์ เี่ ขา้ มากระทบทางทวารทงั้ หก เพอื่ ไมใ่ หเ้ ปน็ ทกุ ข์ ทา อยา่ งไร ? เหลืออยู่อย่างเดียวคือ “ตัวสติ” เรามีสติกาหนดรู้ รู้เท่าทันอารมณ์ “รู้เท่าทัน อารมณ์” รู้ตอนไหน ? รู้ตอนที่เขากาลังเกิด หรือเกิดขึ้นแล้วพอไปรู้เขา ก็ดับ รู้เท่าทันการปรุงแต่งของตัวเอง อย่างที่บอกว่า ถ้าเรารู้เท่าทันการปรุง แต่งของเราเอง พอกระทบ มีเวทนาเกิดขึ้น พอกาลังจะปรุงแต่ง รู้ว่า.. อ๋อ! กาลังจะปรุงแต่งแล้วนะ ไม่ใช่กระทบแล้วไม่มีเวทนา เวทนาเกิดขึ้น ชอบ/


































































































   167   168   169   170   171