Page 217 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 217

193
ก็เป็นไปตามธรรมชาติธรรมดา ใช้คาว่า “รูปนามขันธ์ ๕ ของเรา” แต่ถ้า พิจารณาดูจริง ๆ รูปนามขันธ์ ๕ กายใจนี้ เขาก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย มีสิ่งไหนบ้างที่เขาบอกว่าเขาเป็นเรา ? มีสิ่งไหนบ้างที่บอกว่าเป็นของเรา ? หรือเราคิดเอาเองว่าเป็นของเรา เพราะเรา “เข้าใจว่า” เป็นของเรา ? เกิดมา อาศัย แล้วก็เข้าไป “ยึด” เอาว่าเป็นของเรา
สิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นมา อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันทั้งสิ้น อย่าง ที่บอก “อาศัยกรรมทาให้เกิด” เกิดมีรูปร่างแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ขึ้นมา แล้ว เข้าไปยึดเอาว่า นี่แหละคือของเรา พอไปรู้จริง ๆ อะไรเป็นของเราไม่รู้ ? กายก็แยกจากจิต จิตก็แยกจากกาย “อิสระ” เพียงแต่ “อาศัยกัน” เท่านั้น เอง เราอาศัยได้ชั่วเวลาหนึ่ง ๆ ตอนนอนหลับจิตไปไหนไม่รู้ ทิ้งให้กาย นอนนิ่ง ๆ อยู่คนเดียว ยิ่งพอถึงเวลาตายไป จิตไม่รู้ไปไหน กายเขาเอาไป เผาเฉย ไม่เห็นเขาร้องสักแอะเดียว นี่คือความเปลี่ยนแปลงเป็นไป
ถ้าเรารักตัวเอง จงนาคาสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้พิจารณา แล้วทา อย่างไรเราถึงจะไม่หลงหรือไม่ยึด ว่าอันนั้นของเรา อันนี้ของเรา ? ทุกอย่าง อาศัยชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็เปลี่ยนไป ถ้าเราปฏิบัติธรรม หรือทาใจของ เราให้ปล่อยวาง ละวางได้ จนไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น ความทุกข์ก็หมดไป หายไป เมื่อนั้นแหละเราก็จะอิสระ ไม่ถูกพันธนาการด้วยความโลภ ความ โกรธ หรือความหลง ว่าอันนั้นคือของเรา อันนี้คือของเรา
เพราะฉะนั้น วันสาคัญทางศาสนาแบบนี้ อยากให้เราทั้งหลาย มา น้อมระลึกแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ที่สุด ไม่ใช่แค่ดอกไม้ธูปเทียนที่เรานามาสักการะ การบูชาพระพุทธเจ้าที่ดี ที่สุดคือ “ปฏิบัติบูชา” ไม่ต้องมากหรอก แค่ทาทุกวัน วันละนิด วันละนิด บางคนก็สวดมนต์วันละหน่อย วันละครั้ง หรือนาคาสอนของพระพุทธเจ้า ไปใช้ในเวลาจาเป็น
คาสอนที่เราจาเป็นต้องใช้มากที่สุดกับชีวิตของเราก็คือ ขอให้มีสติ


































































































   215   216   217   218   219