Page 29 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 29

5
บอกวิธีรับพลังเอาไว้ พอไปถึงโน่น อาจจะไม่ได้พูด อาจจะไม่ได้บอก เพราะให้ไกด์เขาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ ว่าตรงไหนเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ ลองดู รับพลังเข้ามาเต็ม ๆ เข้ามาถึงรูปเราให้เต็ม การรับพลัง จะให้พลังตั้ง อยู่ได้นาน ให้รูปเป็นฉาก “เข้ามาที่รูป แล้วให้รูปเป็นฉาก”
ความพิสดารของจิตเรา จิตเราเป็นเหมือนภาชนะที่รองรับ ทั้งสิ่ง ที่ดีและไม่ดี แต่เราเลือกที่จะรับสิ่งที่ดี สังเกตไหม..เวลาเราเกิดความทุกข์ ความไม่สบายใจ ใครเป็นผู้รับ ? ก็คือจิตเรานั่นแหละเป็นผู้รับ ความรู้สึกดี ๆ พลังธรรมชาติ หรือพลังพลานุภาพของพระพุทธเจ้า เราน้อมอย่างนี้ รู้สึกว่า ต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้า ต่อสถานที่นั้นก็เหมือนกัน เราก็ไปนั่งหรือยืน สงบ น้อมรับพลัง ผู้ที่ฝึกพลัง น้อมรับพลังเข้ามาให้เต็ม.. เต็ม.. เต็มที่รูป รู้รสชาติของพลัง รับรู้ถึงรสชาติของพลังอันนั้น แล้วก็ให้ความรู้สึกกลืน เป็นอันเดียวกันกับพลังนั้น ดูที่ความรู้สึก ให้กลืนเป็นอันเดียวกันกับพลัง สังเกตดูว่าเมื่อความรู้สึกกับพลังเป็นอันเดียวกันแล้ว ให้ความรู้สึกเป็น อย่างไร ?
ถ้าน้อมรับพลังไม่เป็น ไม่เป็นไร ให้นั่ง ทาใจให้สงบ นิ่ง ๆ ดูลมหายใจ ดูการเปลี่ยนแปลงของลมหายใจ ดูจิตของตัวเอง ดูที่ความสงบ เพราะการ ดูจิต ดูลมหายใจ จะทาให้จิตเรามีสมาธิ เมื่อจิตเรามีสมาธิมากขึ้น ก็จะมี พลังขึ้น
ดังนั้นเมื่อจิตเรามีพลัง เวลาเราอธิษฐานจิตถึงเป้าหมายในชีวิตของ เรา ก็ให้อธิษฐานอยู่ในพลังอันนั้น อธิษฐานด้วยจิตที่มีพลัง มีความชัดเจน จะทาให้ส่งผลเร็ว พลังหนาแน่นมากขึ้น ชัดเจนขึ้น ก็ให้ล้นจากตัว จนล้น ออกไป ล้นถึงไหนก็ได้ เท่าที่เรารู้สึกว่าพลังเราเต็ม จิตเรามีพลังมากจนมัน ล้นออกไป กว้างกว่าศาลา หรือกว้างออกไปไม่มีขอบเขต ถึงอย่างไรก็ตาม จะกว้างแค่ไหนก็ตาม จะต้องรู้ชัดถึงความเต็ม ความหนาแน่นของพลัง และรู้ที่รูปเรามีความเต็มไปด้วยพลัง ถึงแม้ที่รูปจะไม่มีรูปร่างของรูป แต่ก็


































































































   27   28   29   30   31