Page 33 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 33

9
และยังได้ผลสาหรับบุคคลที่นามาปฏิบัติ นามาใช้ประโยชน์กับชีวิตของ เราจริง ๆ
ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัส ที่พระพุทธองค์ทรงสอน เน้นไป เพื่อความดับทุกข์ ความพ้นทุกข์ของบุคคลทุก ๆ คนที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ใครที่มีความปรารถนาที่จะพ้นทุกข์ ก็ให้ปฏิบัติตามนี้ ตามคาสอนของ พระพุทธเจ้า แม้แต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าบุคลลใด ใครก็ตาม นาคาสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ มาเป็นแนวทางในการดาเนิน ชีวิต ก็จะพาให้ชีวิตนั้นเป็นไปในทางที่เป็นกุศล เป็นไปในทางที่เป็นสุคติ
เบื้องตนก็คือ การรักษาศีล ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ การ รักษาศีลเราจะรู้สึกบางที.. พระเนี่ย ศีลตั้ง ๒๒๗ ข้อ คิดดูถ้านั่งนับทั้งวัน นับแต่ศีลอย่างเดียว ไม่ต้องทาอะไรหรอก ก็อยู่กับปัจจุบันแล้ว ศีลข้อ ๑ อย่างนี้ ศีลข้อ ๒.. ท่องอยู่อย่างนี้ สมัยก่อนเขาก็ท่อง ญาติโยมศีล ๕ ข้อ ก็ รักษา บางคนก็รักษาไม่ไหวหรอก ได้ทีละข้อ ทีละข้อ.. ไม่เป็นไร ได้ทีละ ข้อก็ยังดี วันนี้ได้ข้อหนึ่ง พรุ่งนี้เพิ่มอีกข้อหนึ่ง หรืออย่างน้อย ๆ ชาตินี้ได้ สักข้อหนึ่ง ก็ยังดีนะ เป็นบารมีของเรา แต่ต้องเอาจริงเอาจัง... แต่ต้องเอา จริงเอาจัง
ทีนี้มารักษาให้ง่าย พระพุทธเจ้าก็สอนวิธีรักษาง่าย ๆ ก็คือ มารักษา จิตของเรา ย่อจากศีล สมาธิ ปัญญา ย่อลงมาก็เหลือแต่ “สติ” ให้มีสติ รู้เท่าทันอาการของเรา มีสติรู้ ดูกาย ดูใจของเรา ในปัจจุบัน ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ทีนี้มีอยู่จุดหนึ่งว่า การปฏิบัตินี้เป็นไปเพื่ออะไร ? เราเอาธรรมะของ พระพุทธเจ้าน้อมเข้ามาใส่ตัวเพื่ออะไร ? เป้าหมายหลักของธรรมะ คาสอน ของพระพุทธเจ้า เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ “เป็นไปเพื่อความดับทุกข์” อันนี้ ง่าย ๆ นะ ใกล้ตัว แล้วเราจะไม่ต้องกังวลมาก
มีคาถามอยู่อย่างหนึ่งที่ถามกันมาก “บาป ? ไม่บาป ?” ทาอย่างนี้ บาปไหม ? ทาอย่างนี้บาปหรือเปล่า ? พอถามหาตัวบาปจริง ๆ เราก็ตอบ


































































































   31   32   33   34   35