Page 35 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 35

11
มุทิตา อุเบกขา แต่ที่จริงแล้ว องค์ธรรมนี้ทาให้คนเป็นผู้ใหญ่ เป็นองค์ธรรม ของความเป็นผู้ใหญ่ รู้จักเมตตา รู้จักสงสาร รู้จักวางเฉย แต่สภาวธรรม หรือธรรมะที่ทาให้เราไปเกิดเป็นพรหมจริง ๆ นั้นอาศัยสมาธิ จิตต้องเป็น สมาธิ ต้องอาศัยฌาน จิตที่มีความสงบ คนที่จะไปเกิดเป็นพรหม ถ้าฌาน ไม่เกิดเขาก็ไม่ตาย คนที่จะไปเกิดเป็นพรหมนะ ถ้าฌานไม่เกิดเขาก็ไม่ตาย เพราะฉะนั้น เวลาเขาจะตาย ฌานก็จะเกิดขึ้นรองรับ เหมือนเปิดประตู รองรับ มีบ้านรองรับ พอตายปึ๊บก็ไปเกิดเป็นพรหมทันที สุขสบายนะ เป็น พรหมนี่ สุขสบายนะ ไม่ว่าจะเป็นรูปพรหม อรูปพรหม
เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะไปเกิดเป็นอะไร หรือไม่อยากจะไป เกิดเป็นอะไร เราก็ทาตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่เรายังแข็งแรงอยู่ ตอนที่เรายังมี กาลังอยู่ ตอนที่เรายังเดินได้อยู่ ตอนที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เพราะหลังจาก นั้นแล้ว เป็นเรื่องยาก ที่พูดมาทั้งหมดรู้สึกเหมือนอยู่ไกลจัง
ทีนี้มาถึงตรงที่ว่า “การไม่ทาบาปทั้งปวง” ความหมายของคาว่า “ไม่ ทาบาปทั้งปวง” “บาปทั้งปวง” นี่คืออะไรบ้าง ? จาแนกได้ไหม ? เยอะมาก บาปทั้งปวง มีหลายเรื่องหลายราวหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เข้ามาให้เราได้ทา ทาบาป บางทีเรารู้ไม่ทันเลย เดี๋ยวเรื่องนั้นเดี๋ยวเรื่องนี้เดี๋ยวเรื่องโน้นเข้ามา เยอะแยะมากมาย ความคิดเป็นบาป คาพูดเป็นบาป การกระทาเป็นบาป ดังนั้น “บาปทั้งปวง” เราย่อลงมาสั้น ๆ เลยว่า การกระทาทางกาย ทางวาจา และทางใจ เพราะฉะนั้น กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ นั่นแหละ กรรม บาปทั้งปวง การไม่ทาบาปทางกาย ทางวาจา ทางใจ อันนี้เริ่มใกล้ ขึ้นแล้ว น้อยลงทุกทีแล้ว แคบเข้ามา แล้วเราก็จะรักษาง่ายขึ้น
ทางกาย ทางวาจา ที่จะเกิดขึ้นมาได้ ต้องอาศัยอะไร ? ใจของเรา จิตของเราจะเสวยอารมณ์เหล่านั้น ไม่ว่าจะกระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจก็ตาม จิตเราจะเสวยอารมณ์เหล่านั้น จนมันอิ่ม จนมีกาลังมาก แล้ว ก็จะแสดงออกทางกาย หรือทางวาจา อย่างเวลาเราไม่สบายใจ หรือว่า


































































































   33   34   35   36   37