Page 34 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 34
10
ไม่ถูก หน้าตาของบาปนี่ บางทีเราก็ตอบไม่ถูก สังเกตดูนะ.. บุญกับบาป คาว่า “บุญ” กับ “บาป” อันนี้ช่วยหาแล้วกัน คาว่า “บุญ” กับ “บาป” กับ คาว่า “ทุกข์” กับ “การดับทุกข์” คาไหนมาก่อนกัน ? เพราะฉะนั้นนี่การ ปฏิบัติ รักษาศีล เพื่ออะไร ? “สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย” การรักษาศีลเป็นไปเพื่อ ความสุข ใช่ไหม ? คนที่มีศีลก็จะนามาซึ่งความสุข การรักษาศีลนามาซึ่ง โภคทรัพย์ คนที่รักษาศีลปฏิบัติศีลก็เป็นไปเพื่อนิพพาน
ถ้าเราเริ่มมาพิจารณาธรรมะของพระพุทธเจ้า ด้วยการน้อมนา ธรรมะ คาสอนของพระพุทธเจ้า มาบรรเทาทุกข์ของเราในปัจจุบัน ใน ปัจจุบันจริง ๆ ในโลกนี้ ถ้าเราน้อมนาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเพื่อ ความดับทุกข์ของเราในโลกนี้ โลกหน้าจะมีหรือไม่ เราก็ไม่ต้องกังวล ถ้า เมื่อไหร่ที่เราเอาธรรมะ คาสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ในชีวิตของเรา หรือ บรรเทาทุกข์ ดับทุกข์ในโลกนี้ได้ สุคติก็เป็นอันหวังได้ เพราะปัจจุบันก็เป็น สุขแล้ว อนาคตไม่ต้องกังวล ไม่ต้องพูดถึง เพราะฉะนั้นนี่ ธรรมะคาสอน ของพระพุทธเจ้าสอนทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรมะสาหรับเทวดาอยู่ตรงไหน ? ธรรมะสาหรับเทวดาจาเป็น สาหรับมนุษย์ไหม ? ธรรมะสาหรับมนุษย์เพื่อที่จะเป็นเทวดาเนี่ยจาเป็นนะ ธรรมะสาหรับมนุษย์ที่จะทาให้มนุษย์เป็นเทวดา พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ มีอยู่ ๒ อย่างเอง ธรรมะที่จะทาให้คนเป็นเทวดามีอยู่ ๒ ข้อ ๑. รู้จักอาย ๒. รู้จักกลัว แค่นั้นเอง รู้จักอาย รู้จักกลัว ทาให้เราเป็นเทวดาแล้ว อาย ความไม่ดี กลัวความไม่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าเรากลัวความไม่ดี ก็รักษาจิต เราให้ดี รู้จักละอายในสิ่งที่ไม่ดี ความคิดที่เกิดขึ้น การกระทาที่ไม่ดี ก็รักษา จิตตัวเองให้ดี
ธรรมะที่จะทาให้เราเป็นพรหมก็มีอยู่ ๔ ข้อ มีเมตตา รู้จักสงสาร ผู้อื่น เห็นใจผู้อื่น แล้วก็รู้จักวางเฉยเสียบ้าง เป็นพรหม เมตตา กรุณา
