Page 51 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 51

27
เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เขาเรียก “สุปฏิปันโน” ถึงแม้ยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็ มีจิตปรารถนามุ่งหวังที่จะเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ หรือเพื่อละกิเลสของ ตัวเองอย่างสิ้นเชิง ก็เรียกว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถึงแม้จะยังไม่หลุด พ้น แต่ก็อยู่ในเส้นทาง
เพราะฉะนั้น พวกเราทุกคนที่สนใจในธรรม และมีเจตนาที่จะ ปฏิบัติธรรมให้เป็นไปเพื่อมรรค ผล นิพพาน หรือความหลุดพ้นอย่าง สิ้นเชิง ในขณะที่เรากาลังปฏิบัติอยู่ กาลังมีสติกาหนดรู้อยู่ ดูการเปลี่ยน แปลงดูอาการเกิดดับของรูปนาม นั่นแหละกาลังปฏิบัติดี และปฏิบัติชอบ คือปฏิบัติถูกแล้ว ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพราะอะไร ? สังเกต.. ขณะที่เรา มุ่งที่จะกาหนดอาการเกิดดับของรูปนาม จิตเราไม่ปรุงแต่งในฝ่ายอกุศล จิตจะมีแต่ความนิ่งสงบ และผ่องใส อันนั้นแหละเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ นั่นน่ะถึงเรียกว่าปฏิบัติถูกแล้ว ปฏิบัติชอบแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นสุปฏิปันโน
สงสัยถามได้ไหม ? “ได้” ถามตัวเองก่อน ถ้าเราถามตัวเองได้ เรา ก็ตอบตัวเองได้ พอตอบตัวเองได้ ไม่ต้องถามจากคนอื่นแล้ว แล้วปฏิบัติ ไปมาก ๆ คาถามของเราก็จะน้อยลง ๆ “คาถามน้อยลง” หมายถึงว่า ตัว วิจิกิจฉาหายไป ความสงสัยในธรรมะหายไป ฉะนั้นคาถามก็จะน้อยลง เมื่อไหร่ที่เรายังสงสัยในธรรมะ คาถามก็เยอะแยะ อันนี้แหละปฏิบัติดีปฏิบัติ ชอบ
เพราะฉะนั้น เราดูตัวเอง การปฏิบัติ รู้ตัวเอง พัฒนาตัวเอง ใคร จะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา เราเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาใช้ ทุกคนมีวิบาก กรรมเป็นของตัว ทุกคนมีวาสนาเป็นของตัวเอง ไม่เท่ากัน ไม่เท่ากัน แต่ ต้องหมั่นพิจารณา ต้องหมั่นพัฒนาตัวเอง สารวมระวัง และพัฒนาให้การ ปฏิบัติธรรมของเราดียิ่ง ๆ ขึ้นไป พัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าในธรรมะยิ่ง ๆ ขึ้นไป มีความเพียรให้มาก ถ้ารู้ว่าเรายังต้องปฏิบัติ เรายังต้องศึกษาอยู่


































































































   49   50   51   52   53