Page 515 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 515

491
ตามมาอย่างหนึ่ง ขณะที่ดูสภาพจิตไปเรื่อย ๆ พอได้ยินเสียงดัง เสียงเกิด ดับแบบนี้ ขณะที่ดูสภาพจิตไป พอมาเดินจงกรม อาการเดินเปลี่ยนเป็น แบบนี้ ๆ นั่นคือเป็นสิ่งที่อาศัยกันเกิด เพราะฉะนั้น ให้สังเกตดี ๆ ว่า เวลา เราปฏิบัติหรือกาหนดอารมณ์ต่าง ๆ สภาวะที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ? ถ้าเรา สังเกตหรือใส่ใจพิจารณาในลักษณะอย่างนี้ สติเราจะมีความต่อเนื่องใน ทุก ๆ อิริยาบถ
เมื่อการกาหนดรู้มีความต่อเนื่องในทุกอิริยาบถ สภาวะจะชัดเจนใน ตัวของเขา แม้แต่ความว่างเอง ไม่มีอาการเกิดดับเลย มีแต่ความว่าง แต่ก็ ชัดเจนว่าอะไรว่าง จิตเราว่างหรือจิตแบบไม่มีอะไร ? ว่างแบบมีกาลังหรือ ว่างแบบไม่มีอะไร ? เขาเรียก “ว่างอย่างมีสติ” ตรงนั้นจะมีความชัดเจน ในตัว เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่เราปฏิบัติ ไม่ว่าจะกาหนดอาการอะไรก็ตาม ให้ใส่ใจ ตั้งใจพิจารณา สังเกตให้ดีว่าสภาวธรรมที่กาลังปรากฏอยู่เฉพาะ หน้าเรานั้นเป็นไปในลักษณะอย่างไร เกิดดับในลักษณะอย่างไร ? สภาพจิต เป็นอย่างไร ? ถ้าทาได้อย่างนี้ ยังไงการปฏิบัติของเรา สภาวะของเราก็จะ เดินหน้าไปเรื่อย ๆ ไปสู่เป้าหมายที่เราปรารถนา คือมรรคผลนิพพานก็อยู่ ไม่ไกลเกินไป
ส่วนใหญ่เราปฏิบัติเพราะความไม่เข้าใจอย่างหนึ่ง อย่างที่บอกว่า สภาวะที่เกิดขึ้นกับปริยัติหรือกับความเข้าใจของเรา ไม่ตรงกันอย่างหนึ่ง เรา ไม่รู้ถึงเป็นขณะ เป็นขณะ บางครั้งปริยัติพูดถึงขณะใหญ่ สภาวะขณะเล็ก ที่ปรากฏขึ้นมาเราไม่เข้าใจ หรือเห็นแล้วแต่ไม่เข้าใจถึงว่าแต่ละขณะที่ เกิดขึ้นเขาเปลี่ยนอย่างไร เราคิดว่าต้องเป็นขณะใหญ่อย่างเดียว ที่จริงบาง สภาวะที่ปริยัติพูดถึง แค่ขณะเล็ก ๆ ชั่วขณะจิตหนึ่ง วิถีจิตหนึ่ง ๆ ที่เกิด ขึ้นมาแล้วก็เปลี่ยน แล้วก็เปลี่ยน... ถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นชัด อาศัยขณะ เล็ก ๆ นี่แหละแล้วก็กลายเป็นขณะใหญ่


































































































   513   514   515   516   517