Page 188 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561

รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
182 การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561

การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญยังไม่เป็นไปตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ เมื่อผู้คำ้าประกัน 400 กว่ารายถูกหักหนี้รับ
ภาระจากซองเงินเดือนเพื่อชำาระหนี้แทนผู้กู้ ทำาให้เกิดปัญหาซองเงินเดือนติดลบ และถูกเสนอชื่อให้ออกจากการเป็น

สมาชิก ทำาให้ต้องมีผู้รับภาระคำ้าประกันเพิ่มขึ้นอีกทอดหนึ่ง

จำานวนสมาชิกผู้รับภาระคำ้าประกันระหว่างปี 2558-2559 จะเห็นว่า เดือนธันวาคม และ เดือนกรกฎาคม

ที่ได้ทำาดอกจันไว้ให้เห็น จะมียอดหนี้เพิ่มขึ้นทันที เมื่อกรรมการมีมติให้ชำาระหนี้ทั้งจำานวน

เดือนมกราคม 2558 ถึง เดือนธันวาคม 2558 มีจำานวนสมาชิกผู้รับภาระคำ้าประกัน 331 ราย จำานวนสัญญา
472 สัญญา ยอดหนี้ 118 ล้านบาท เมื่อกรรมการมีมติให้เก็บหนี้ที่ถูกให้ออกที่รับภาระคำ้าประกัน จำานวนรายก็เพิ่มขึ้น

จำานวนสัญญาก็เพิ่มขึ้น ยอดหนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

เดือนมิถุนายน 2559 จำานวนราย 543 ราย จำานวนสัญญา 918 สัญญา ยอดหนี้ 263 ล้านบาท แต่เมื่อกรรมการ

มีมติให้เก็บหนี้ภาระผู้คำ้าทั้งจำานวน หนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เป็นยอดหนี้ที่เก็บไม่ได้ค้างชำาระ 421 ล้านบาท ซึ่งนำามาตั้ง
สำารองหนี้สูญ

เมื่อปี 2559, 2560 ที่ผ่านมา มีการตั้งสำารองหนี้สูญ 290 ล้านบาท หากไม่ทำาแบบนี้ ยอดหนี้ที่เก็บไม่ได้
400 กว่าล้านบาท ปีต่อมา ปี 2560 หากเกิดหนี้เสียอีก 200 ล้านบาท จะรวมเป็น 600 ล้านบาท ถ้าปีนี้มีกำาไร 1,600

ล้านบาท เมื่อหักด้วยสำารองหนี้สูญ 600 ล้านบาท จะเหลือผลประกอบการเพียง 1,000 ล้านบาท จะนำามาจ่ายเงินปันผล
เงินเฉลี่ยคืนได้อย่างไร ดังนั้น จึงเห็นว่าเมื่อดำาเนินการตามเสนอแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อองค์กร ซึ่งได้พยายามสื่อ

ให้เห็นภาพจริงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจกับสิ่งที่สมาชิกได้อ่านมาในโลกโซเชียล

ในปี 2560 สหกรณ์ฯ ดำาเนินการตามวัตถุประสงค์ของผู้คำ้าประกันที่รับภาระหนี้จากผู้กู้ เมื่อผู้คำ้าประกันใช้สิทธิ์

เกี่ยงตามมาตรา 668 ซึ่งในเรื่องของการใช้สิทธิ์เกี่ยงคือเมื่อจะเรียกเก็บหนี้จากผู้กู้ ต้องแจ้งให้ผู้คำ้าทราบด้วย ผู้คำ้า
สามารถใช้สิทธิ์เกี่ยงได้โดยให้สหกรณ์ฯ ไปตามเก็บหนี้ของผู้กู้ก่อน ซึ่งสหกรณ์ฯ ต้องทำาตามกฎหมาย แต่ใน

ขณะเดียวกันสหกรณ์ฯ ก็แจ้งให้ผู้รับภาระคำ้าประกันทราบตามกฎหมายด้วยว่าเมื่อครบตามเงื่อนเวลาแล้ว จะต้องฟ้อง
ผู้กู้และผู้คำ้า เมื่อผู้คำ้ามาใช้สิทธิ์เกี่ยง สหกรณ์ฯ จะหยุดหักเงินเดือนสัญญาที่ใช้สิทธิ์เกี่ยงและติดตามทวงหนี้จากผู้กู้

กรณีติดตามทวงหนี้จากผู้กู้ไม่ได้ สหกรณ์ฯ จึงดำาเนินการฟ้องคดีทั้งผู้กู้และผู้คำ้า ซึ่งเหตุที่ต้องฟ้องทั้งผู้กู้และผู้คำ้า เพราะ
ค่าใช้จ่ายจะตำ่ากว่าการแบ่งฟ้องและคดีไม่ตกหล่น เพราะฉะนั้นทั้งผู้กู้และผู้คำ้ายังต้องรับสภาพหนี้ตามปกติ หนี้จะไม่สูญ

แต่จะเก็บหนี้ได้หรือไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยได้ประกาศออกไปตามประกาศสหกรณ์ฯ ที่ 43/2559 ลงวันที่
3 พฤษภาคม 2559

ในระหว่างสหกรณ์ฯ ฟ้องคดี ผู้คำ้าประกันจะสามารถชำาระหนี้ตนเองได้ แทนที่จะถูกเรียกเก็บหนี้ทั้งจำานวน
ก็ถูกเรียกเก็บลดลง เพราะความเป็นอยู่ดีขึ้น ทำาให้จำานวนสัญญาที่รับภาระเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง เป็นไปตามข้อมูล

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และเริ่มลดลงดังข้อมูลเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้เกิดขึ้นในปี 2560, 2561 แต่ปัญหาเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558, 2559 หรือก่อนหน้านั้น

ที่ไม่รู้ว่าเมื่อใด แต่จากที่ได้เห็นเอกสารพบว่าเกิดขึ้นปี 2558, 2559 แต่ผมเข้ามาปี 2560, 2561 ที่ถูกต่อว่า
อย่างหนัก แต่ก็พยายามแก้ไขเพื่อให้กลับคืนดีและทำาให้สหกรณ์ฯ อยู่อย่างมั่นคงยั่งยืน