Page 193 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561
P. 193

รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
                                                                          การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561  187


                    สำาหรับวาระที่ 3 ที่ประธานจะขอเปลี่ยนแปลงข้อความจาก พิจารณาขอความเห็นชอบและอนุมัติ เป็น
            เพื่อทราบ เพราะฉะนั้น วาระที่ 2 ต้องตกผลึกก่อน ถ้าท่านเห็นชอบให้เกิดกองทุน จะโยงไปถึงวาระที่ 3 ซึ่งจะไม่สามารถ

            เปลี่ยนแปลงอะไรได้ ดังนั้น จึงขอให้สมาชิกคิดในประเด็นวาระที่ 2 นี้ให้ถี่ถ้วน ถ้าหากว่าไม่อนุมัติกองทุนแล้ว

            วาระที่ 3 แทบจะไม่ต้องพิจารณาแล้ว

                    20.  นายนเรศ  ผึ้งแย้ม  สมาชิก  เรื่องที่กรรมการฝ่าย DO ตั้งประเด็นไว้ ก็เห็นด้วย และเรื่องที่ประธาน

            นำาเสนอ ก็เห็นด้วย  สาเหตุที่เห็นด้วย เพราะเข้าใจเจตนาว่าจะช่วย แต่โครงการนี้เป็นการช่วยเหลือที่ปลายเหตุ ถ้าจะ
            ช่วยเหลือที่ต้นเหตุจริง ๆ แล้ว ควรนำากองทุนนี้ไปบังคับคดีกับผู้กู้ ซึ่งมองว่ามีประโยชน์จะช่วยผู้คำ้าได้มากกว่า   สำาหรับ
            โครงการนี้ จะเห็นด้วยอย่างมากถ้าสมาชิกไม่เกี่ยงสิทธิ์ หรือมีหนี้น้อยแล้วสู้คดีอยู่ แต่ปัจจุบันสมาชิกจะมีหนี้มากแล้ว

            สู้คดีอยู่ โครงการนี้สมาชิกจะได้เงิน 500 บาท ได้พักชำาระหนี้ ในขณะเดียวกันก็ได้หนี้มาด้วยทันทีถ้าเซ็นรับสภาพว่า

            จะเข้าโครงการ  แต่ปัจจุบันพบว่ามีการตัดซองผู้คำ้าทันทีในขณะที่บางคนยังอยู่ชั้นอุทธรณ์ ชั้นฎีกา จึงไม่เข้าใจว่าเกิด
            อะไรขึ้น  หากไปถามฝ่ายการเงินของบริษัทกรณีการหักเงินที่อยู่ระหว่างการสู้คดี ก็จะได้รับคำาตอบว่า เป็นการหักตาม
            ข้อตกลงร่วม แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ข้อตกลงร่วมได้จบไปตั้งแต่สหกรณ์ไปฟ้องแล้ว   จึงขอทำาความเข้าใจก่อนว่า แม้แต่หนี้

            ตามคำาพิพากษาของศาล ก็ยังไม่มีสิทธิ์ไปหัก ตามมาตรา 271 วิแพ่ง เขียนไว้ชัดเจนว่า ถ้าลูกหนี้ที่แพ้คดี ไม่จ่ายเงิน

            ตามคำาพิพากษา ให้ขอบังคับคดี ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับสมาชิก กรณีมีหลายสัญญา การฟ้องจะฟ้องหลายสัญญาได้ แต่
            การบังคับคดี จะหักได้ทีละสัญญา ระยะเวลา 10 ปี ถ้าเกินจากนั้น หักได้ไม่ครบ กฎหมายไม่รับผิดชอบ  จะเห็นว่า
            โครงการนี้เหมาะสำาหรับถ้าหนี้น้อย ถ้าหนี้มาก ก็ยังต้องการให้สมาชิกได้มีสิทธิ์ต่อสู้ก่อน แต่ปัจจุบัน หากไม่มีการต่อสู้

            คดี ก็บังคับหักเงินแล้ว   สรุปว่า เงิน 23 ล้านบาท มีความเห็นว่า นำาเงินกองทุนนี้ไปจ้างทนายส่งบังคับคดีกับผู้กู้ก่อน

            ที่จะหักจากผู้คำ้า จะเกิดประโยชน์มากกว่า

                    21.  นายพิทยา  ทิพยโสตถิ  ประธานกรรมการ   ชี้แจงว่า  เรื่องการบังคับคดี มีงบประมาณอยู่แล้ว

            แต่สำาหรับงบประมาณโครงการนี้ ต้องทำาความเข้าใจกันก่อนว่า ที่ประชุมใหญ่อนุมัติไว้ว่าให้ทำาประกันชีวิต แต่ถ้าจะ
            ช่วยเหลือสมาชิกในลักษณะที่นำาเสนอต่อที่ประชุม ก็ต้องเปลี่ยนชื่องบประมาณเพื่อจะได้ใช้ได้อย่างถูกต้อง ส่วนที่

            กรรมการบอกว่าเป็นคนปลุกระดมให้มาประชุมที่บอกว่า เงินช่วยเหลือ 500 บาท ไม่เคยพูดกันในที่ประชุมว่าได้คืน
            จากไหน ก็ขอให้ดูระเบียบที่ส่งร่างไป ร่างระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วยกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้รับภาระคำ้าประกัน

            พ.ศ. 2561 ข้อ 6. “เงินที่ได้รับจากการติดตามทวงหนี้ให้ส่งคืนเข้ากองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้รับภาระคำ้าประกันเท่ากับ
            จำานวนที่จ่ายช่วยเหลือผู้รับภาระคำ้าประกัน” เห็นหรือไม่ว่า ไม่ได้ไปไหน แต่ ณ ตอนนี้ จะมาพูดในที่ประชุมว่าไม่เคย

            รู้ไม่เคยบอก ซึ่งระเบียบนี้ได้ผ่านจากที่ประชุม บันทึกประชุมก็มี ซึ่งจะขออ่านให้ฟัง จากรายงานการประชุม
            คณะกรรมการดำาเนินการ วันที่ 16 ตุลาคม 2561 หน้า 21 ข้อ 48. “ประธาน  จากวาระการประชุมที่นำาเสนอ มีวาระ

            การตั้งกองทุน โดยนำาเงินงบประมาณมาตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้คำ้าประกัน แล้วนำาเงินกองทุนมาช่วยเหลือสมาชิก
            หลังจากได้รับชำาระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว ก็จะเรียกเงินคืนจากสมาชิกกลับเข้ากองทุน ผลสุดท้าย เงินที่ช่วยเหลือไปแล้ว

            จะกลับคืนสู่กองทุน”  ซึ่งได้พูดชัดเจน ทุกคนก็รู้ แต่เวลาพูดกลายเป็นอะไรไม่รู้ โดยไม่ขอพูดต่อแล้ว แต่จะขอเรียนเชิญ
            ที่ปรึกษาสหกรณ์ฯ ตอบในเรื่องข้อกฎหมาย


                    22.  นายสรยุทธ  หอมสุคนธ์ กรรมการ   จากระเบียบที่ประธานอ้างถึง ข้อ 6. “เงินที่ได้รับจากการติดตาม
            ทวงหนี้ให้ส่งคืนเข้ากองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้รับภาระคำ้าประกันเท่ากับจำานวนที่จ่ายช่วยเหลือผู้รับภาระคำ้าประกัน”
   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198